ดูแลผิวแพ้ง่าย อย่างถูกวิธี

ดูแลผิวแพ้ง่าย อย่างถูกวิธี

สาวๆ สมัยนี้ ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่าย การเลือกใช้เครื่องสำอางจึงควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว บริษัท เฮลท์คอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอางแบรนด์ PROVAMED ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผิวแพ้ง่าย ดังนี้

1.เริ่มใช้เครื่องสำอางทีละอย่างก่อน ไม่ว่าตอนซื้อจะซื้อมากี่ชนิด อย่างน้อย 2-3 วัน

2.ถ้าไม่มีอาการระคายเคืองหรือผื่นแดง ค่อยเริ่มใช้ชิ้นที่ 2 ต่ออีก 2-3 วัน

3.ถ้าใช้แล้วมีผื่นแดง คัน ให้สังเกตว่า เริ่มมีผื่นแดงเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นใดและควรหยุดใช้ แล้วปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

4.การดูแลผิวแพ้ง่ายและบอบบางที่ดีและได้ผลที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงใช้เครื่องสำอางหรือสารเคมีให้น้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าแพ้เครื่องสำอางหรือไม่ สามารถลองทดสอบด้วยตนเองก่อนอย่างง่ายๆ ด้วยวิธี Open Test โดยการทาผลิตภัณฑ์ที่ท้องแขนทุกเช้า-เย็นหลังอาบน้ำ หากเกิดผื่นขึ้นภายใน 7-10 วัน ควรปรึกษาแพทย์ เพราะแสดงว่ามีโอกาสแพ้

นอกจากนั้นยังมีเคล็ดลับการปกป้องผิวให้ปลอดภัยจากอาการแพ้และระคายเคืองด้วย คือ เริ่มจากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ครีม หรือเครื่องสำอางที่ระบุว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอมและสารกันบูด ต้องอ่านฉลากและส่วนผสมก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกรณีที่รู้ว่าแพ้สารตัวใด อย่าลืมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ และมองข้ามไม่ได้คือ งดทานอาหารรสจัด ของหวานและของทอด ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรรักษาความสะอาดผิวหน้า โดยเช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้าให้สะอาด ตามด้วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเสมอ ที่สำคัญพยายามดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ผิวสวยสุขภาพดี และเป็นการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวยาวนานอีกด้วย.

ทำสติ๊กเกอร์ติดเล็บเอง สำหรับมือใหม่หัดเพ้นท์

ก่อนอื่นต้องบอกว่า วิธีนี้เหมาะสำหรับ

1. มือใหม่ 

2. คนที่ถนัดขวา แล้ววาดด้วยมือซ้ายบนมือขวาไม่เคยได้ ลง detail บนลายไม่ได้ (คนถนัดซ้ายก็คือ ถ้าวาดอีกมือไม่ได้เหมือนกันค่ะ)

3. อยากวาดลายใหญ่ๆ แต่กะพื้นที่บนเล็บไม่ถูก

เริ่มขั้นตอนกันเลยนะคะ หาถุงพลาสติกพวกถุง Zip lock ก็ได้ แบบที่เนื้อพลาสติกลื่นๆจะดีค่ะ อันนี้หยิบถุงสำลีหมดแล้วมาใช้ค่ะ แล้วก็ใช้บาทาเล็บวาดลา่ยไปเลย การวาดลายลงไปมี 2 วิธีที่จะแนะนำค่ะ

1. ใช้ยาทาเล็บวาดไปเลย หยดยาทาเล็บเยอะหน่อย เพื่อให้เกิดความหนา ถ้าบางไปแล้วจะทำให้ลายแตกได้ 

2. ทา top coat ลงบน ถุงพลาสติกก่อน แล้วค่อยลงสียาทาเล็บ วิธีนี้ ลายจะไม่ค่อยแตก ลอกง่าย แต่ว่าจะหนาเกินไปเวลาติดบนเล็บค่ะ 

พอทำแล้วควรทิ้งไว้นานนิดนึงนะคะ ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากเร็วๆก็ให้ทาแบบ top coat รองพื้นก่อน แบบนี้แค่ ชั่วโมงเดียวก็ได้ค่ะ

เพราะตอนที่ลองทำ ไม่ได้ทา top coat ก่อนแล้วทิ้งแค่ 1 ชั่วโมง ลอกออกมายากมาก หมีย่นด้วย กลายเป็นแบบนี้ค่ะ #First Attempt

แต่ก็ยังติดได้นะคะ

เลยลองทำใหม่ ทา top coat ก่อน วาดหมีเพิ่ม

 

ทิ้งไว้ข้ามคืน พอวันถัดมาลอกง่ายมากกกกกกกกกกกกกก ทั้งแบบที่ทา top coat ก่อนกับยังไม่ได้ทา ลอกง่ายสุดๆ

แล้วก็มาตัดขอบหน่อยค่ะ

เวลาแปะจะทา top coat ตรงด้านหลัง หรือว่า ทาไปบนเล็บเลยแล้วเอามาแปะก็ได้นะคะ แล้วค่อยทาเคลือบด้านบนอีกครั้ง

รูปบนนี้ หมีหูหลุดค่ะ เอามาต่อกันได้่ ลายดูเนียนมาก 

 

เสร็จแล้วค่ะ ประทับใจมากที่ลายบนมือขวาสวยได้ ปกติจะเอาแต่มือซ้ายโชว์เพื่อน เพราะว่ามือขวาจะเละมากกกกก ถึงเราจะไม่ถนัด ตอนนี้ก็มีขั้นตอนมาช่วยแล้ววววว หวังว่าคงถูกใจนะคะ

America's Got Talent Audition ทีมนี้เจ๋งดี

Team iLuminate

“มิวสิค AF4”เรียนจัดหนัก-งานจัดเต็ม

ประสบการณ์วัยรุ่นวัยเรียนของหนุ่มตี๋ “มิวสิค” แห่งเอเอฟ4 จะเหมือน หรือแตกต่างจาก “รักจัดหนัก” ในจอเงินอย่างไร มิวสิคพร้อมอัพเดตให้แฟน ๆ “เดลินิวส์แคมปัส” ได้รู้ก่อนใคร

ถูกกล่าวถึงมากในสังคมออนไลน์ขณะนี้ สำหรับ “รักจัดหนัก (LOVE, NOT YET)” ภาพยนตร์ที่จับประเด็น “ความรัก” และ “เซ็กซ์” ในวัยรุ่นมาฉายผ่านแผ่นฟิล์ม หนึ่งในทีมนักแสดงนำคือ “มิวสิค-รัชพล แย้มแสง” ตี๋หนุ่มแห่งเอเอฟ4 ซึ่งประสบการณ์วัยรุ่นวัยเรียนของมิวสิคจะเหมือน หรือแตกต่างจากจอเงินอย่างไร วันนี้ “เดลินิวส์แคมปัส” มาอัพเดทให้รู้ก่อนใคร

มิวสิคในวันวานเป็นเด็กสายวิทย์ฯ ชอบการคำนวณเป็นทุนเดิม แต่ก็สนใจในเทคโนโลยี จึงตั้งใจเลือกเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาซอฟต์แวร์และความรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

“หลังจากเรียนประมาณ 1 ปีแล้วดร็อป กว่าจะกลับมาเรียนต่อค่อนข้างนานพอสมควร อาจต่อติดยากหน่อย แต่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องเรียนให้จบ มิวสิคชอบงานวงการบันเทิง แต่อยากเรียนในสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำหรับตัวเอง สามารถสร้างอนาคตได้หากไม่ได้ทำงานตรงนี้”

มิวสิคเล่าถึงการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยว่า วิศวะเรียนหนัก ซึ่งมิวสิคมองว่าทำงาน และเรียนไปด้วยไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ช่วงแรกมีคิดท้อบ้าง จะรอดไหม (หัวเราะ) แต่เมื่อเราคิดจะทำอะไรสักอย่าง แล้วมีความตั้งใจ มิวสิคคิดว่าต้องสำเร็จ ถ้าไม่ทันตรงไหนเข้าไปคุยกับอาจารย์ ไปตามงาน ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้ จนถึงวันนี้เรียนเทอมสุดท้าย รู้สึกทำได้ รอดแล้ว (หัวเราะ)

การได้โอกาสทำงานขณะอยู่ในวัยเรียน มิวสิคบอกว่า การเรียน และทำงานไปด้วย ถ้าจะบริหารให้ไปด้วยกันทั้งคู่ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้หน้าที่ มิวสิคมองว่าต้องรู้จักตัวเองให้ดี สนใจผลลัพธ์ที่จะเกิด อย่าไปคิดว่าเรียนจบช้าไม่เป็นไร เพราะทำงานแล้ว คือข้ออ้าง แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าผลลัพธ์ในชีวิตจะเป็นอย่างไรตั้งแต่แรก จะช่วยให้เส้นทางเดินจากนั้นชัดเจนขึ้น เป็นแรงผลักดันต้องทำให้ได้

ถามถึงอนาคตด้านการเรียน และการทำงาน มิวสิคเผยว่า ต้องดูในขณะนั้นว่างานเราเป็นอย่างไร มิวสิคอาจเรียนต่อด้านเอ็มบีเอ, ไฟแนนซ์ หรือการเงิน จบแล้วลุยงานที่เรียนมาเลย เป็นลักษณะของการที่เรามีพื้นฐานอะไรทำอยู่อย่างหนึ่ง ควบคู่กับงานในวงการบันเทิงซึ่งอยากทำเพราะความรัก

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในวงการบันเทิงล้วนพัฒนาทั้งบุคลิก และความคิดที่โตขึ้น โดยมิวสิคกล่าวว่า หลังจากทำงาน สิ่งที่มิวสิคได้รับกลับมาหลัก ๆ เลยคือ ทำให้เราเฟรนด์ลี่ขึ้น ได้ฝึกเรื่องบุคลิก รู้จักกระบวนการทำงานกับผู้อื่น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราพัฒนา และโตขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องฝึกทักษะทั้งการร้องเพลง และการแสดงอยู่เรื่อย ๆ เพื่อผลิตผลงานที่มีคุณภาพสู่ผู้ชมทุกท่านที่คอยเป็นกำลังใจ และติดตามครับ”

เป้าหมายเริ่มต้นจากความคิด และมักจบลงด้วยการลงมือทำอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนเชื่อว่าสำเร็จได้ เพราะไม่มีอะไรจะชนะความมุมานะที่มี ดั่งเส้นทางของหนุ่มตี๋ “มิวสิค รัชพล แย้มแสง”.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

เรื่องเล่าเตือนใจ ของสาวโสดช่างเลือก!

สาวสวย 4 คน พากันเดินเข้าไปในตึกแห่งนึงชั้นล่าง เธอเห็นป้ายเขียนไว้ว่า

"แต่ละชั้น จะบอกคุณสมบัติของชายหนุ่มเอาไว้ ถ้าท่านผ่านชั้นนั้นไป ไม่สามารถกลับลงมาได้อีก"

สาวๆ ก็เข้าใจ และ ทำตาม เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกป้ายหน้าชั้นแรกเขียนว่า

“ชั้นนี้เต็มไปด้วย ชายชรา จน และไม่โสด”

สาวๆ รีบปิดประตู และกดขึ้นไปชั้นที่ 2 เมื่อประตูเปิด ป้ายประจำชั้น เขียนว่า

“ชั้นนี้เต็มไปด้วย ชายหนุ่ม ขี้เหร่ จน และไม่โสด”

สาวๆเบ้ปาก และขึ้นไปชั้น 3 พบข้อความว่า

“ชั้นนี้เต็มไปด้วย ชายหนุ่ม หล่อ โสด แต่จน”

สาวๆกดปุ่มปิดประตู และขึ้นไปชั้นที่ 4 เมื่อประตูเปิดสาวๆก็พบข้อความ

“ชั้นนี้เต็มไปด้วย ชายหนุ่ม หน้าตาหล่อ รวย และ โสด”

สาวๆทำหน้าลังเลครุ่นคิด ถกเถียงกันยกใหญ่ แต่เมื่อเห็น ปุ่มกดชั้นที่ 5 พวกเธอจึงลงมติ ไปชั้นที่ 5 และคิดว่า คงดีที่สุด เมื่อประตูเปิดที่ฃั้น 5 สาวๆพบป้าย ที่มีข้อความว่า

“ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ทำให้ผู้หญิงพอใจได้เลย”

สาวๆ ทั้ง 4 ยังอยู่เป็นโสดคาชั้น 5 ตลอดกาล

ผู้ชายแบบไหน ที่ผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วหมดอารมณ์

ผู้ชายแบบไหน ที่ผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วหมดอารมณ์

ภาพติดเรท ชวนคิดลึก แต่จริงๆ แล้ว เค้าแค่ถอดเสื้อนะคร้า

1. ดื่มมากซะจนเมาเกินงาม ผู้ชายบางคนอยากหาแฟนโดยการเลือกไปนั่งดริ้งตามผับ บาร์ แต่หารู้ไม่ว่า บางทีดื่มจนติดลม เมาหมดท่า ก็ไม่เป็นที่ปรารถนาของสาวๆ 

2. ชอบเต้น dirty dancing ผู้ชายเต้นนิดๆ หน่อยๆ ก็พอดูน่ารัก แต่ถ้าหลุดเต้นเยอะ+ท่าทางที่น่าเกลียดออกมาแล้วละก็ คงไม่มีสาวไหนทนคบกับคุณได้นานหรอก ผู้หญิงเค้าก็อายเป็นนะ

3. มีบลูทูธแปะอยู่ที่หูตลอดเวลา ผู้หญิงจะคิดว่าธรุกิจของคุณสำคัญกว่าชั้นเหรอ? เวลาอยู่ด้วยกันถอดออกก่อนก็ได้

4. คอมเม้นต์คนอื่นทางลบ  เช่น ผู้หญิงคนนี้สะโพกสวยนะ แต่ไม่น่าใช่สะโพกของเธอจริง น่าจะใส่อะไรเสริมเพื่อให้หุ่นดูดีแน่เลย 

5. พูดจาเสี่ยวๆ เลี่ยนๆ เช่น คุณน่ารักมากซะจนผมไม่อยากจะมองผู้หญิงคนอื่น หรือ คุณมาเดินอยู่แถวนี้ได้ยังไง เมื่อกี้คุณยังวิ่งอยู่ในใจผมอยู่เลย

ถ้าจะหล่ำบึกบับ อย่างเพ่แชนนิ่ง จ้างให้ก็ไม่เบื่อฮ่ะ

6. ใส่โคโลญจ์เยอะเกินไป  บางคนถึงขนาดฉีดทั้งตัวกลัวจะไม่หอม แต่จะบอกว่าคิดผิดนะคะ ฉีดมากเกินไปอาจทำให้คนเดินข้างๆ ฉุนกลิ่นโคโลญจ์จนไม่อยากเดินด้วยต่างหากล่ะ

7. ชอบพูดคำหยาบ  คบกันแรกๆ อาจจะพูดจาดีให้เกียรติกัน แต่พอคบไปสักพักเริ่มหลุดคำหยาบ สบถ หรือพูดจาไม่ดีใส่ 

8. คบเพื่อนที่ดูไม่เท่ห์ นิสัยแย่ การที่คบเพื่อนนิสัยแย่ เมาเหล้า ชอบเต้น dirty dancing หรือปากเสียขี้เมาส์ ทำให้ผู้หญิงไม่อยากคบด้วย เพราะผู้หญิงอาจคิดว่า เพื่อนเป็นแบบนี้ต้องเป็นเหมือนเพื่อนแน่ๆ

9. ปากเหม็น กลิ่นปากเป็นเรื่องสำคัญ การที่ผู้ชายคุยกับผู้หญิงแล้วมีกลิ่นปากเนี่ย ทำให้ความประทับใจของผู้หญิงที่มีต่อคุณหมดไป 

10. มีลูก บางคนอาจจะไม่แคร์เรื่องนี้ แต่สำหรับหนุ่มที่มีลูกเวลาไปเดทกับผู้หญิงในครั้งที่สองที่สามก็ควรบอกเธอได้แล้ว เผื่อถ้าเธอรับได้ก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ทางใครทางมันแบบแฟร์ๆ

ใครที่มีพฤติกรรมอย่างที่ว่ามาข้างต้นแล้วไม่อยากให้สาวๆ ตีจากละก็ กลับตัวกลับใจตอนนี้ยังไม่สาย

วิธีดูแลริมฝีปากให้สวย

วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยน่าสัมผัส

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ริมฝีปากดำคล้ำและแตกเป็นขุย พร้อมดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้นสุขภาพดี เพื่อริมฝีปากสวยน่าสัมผัส

“ริมฝีปาก”เป็นอวัยวะที่เซ็กซี่ที่สุดอย่างหนึ่งบนร่างกาย เห็นได้จากที่หลายๆ คนยอมเจ็บตัวเพื่อฉีดริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม นอกจากเหตุผลด้านความงามแล้ว การดูแลริมฝีปากให้สุขภาพดียังส่งผลด้านสุขภาพ เพราะถ้าปากแตกเป็นขุย เมื่อจะพูด หัวเราะ รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำย่อมต้องสร้างความเจ็บปวด

ปัจจัยที่ทำให้ริมฝีปากคล้ำและแห้งแตก คือ สภาพอากาศ หากอากาศหนาวหรือความชื้นต่ำจะทำให้ริมฝีปากแห้ง และดูหมองคล้ำ ส่วนความสมดุลของฮอร์โมนเอสโทรเจนก็มีผล ถ้ามีฮอร์โมนเอสโทรเจนเพียงพอริมฝีปากก็จะดูสุขภาพดี แต่ถ้ามากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลต่อสภาพของริมฝีปาก เช่น ทำให้ริมฝีปากคล้ำกว่าปกติ

นอกจากนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า การสูบบุหรี่ก็ทำให้ริมฝีปากคล้ำ แม้จะไม่ส่งผลทันที แต่หากสูบบุหรี่ไปนานๆ เข้าริมฝีปากจะเริ่มมีสีเข้มขึ้น

ส่วนวิธีดูแลริมฝีปากให้สุขภาพดี คือ ทำความสะอาดลิปสติกออกด้วยคลีนเซอร์ เพื่อขจัดสารเคมีที่อยู่ในลิปสติกออกให้หมด จากนั้นทาลิปบาล์มไม่มีสีและมีส่วนผสมของวิตามินก่อนเข้านอน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ซึ่งจะได้ผลดีกว่าทาในช่วงกลางวัน เพราะขณะนอนหลับลิปบาล์มจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี

ที่สำคัญต้องรักษาความสะอาดช่องปาก เพราะแบคทีเรียในปากอาจทำให้ริมฝีปากติดเชื้อหากมีแผลเพียงเล็กน้อย

นสพ.เดลินิวส์

บิ๊กอายส์ - ข้อควรระวังเกี่ยวกับบิ๊กอายส์

ระวังอย่าให้ บิ๊กอายส์ ทำลายตา

อยากสวยแบ๊วแบบหนุ่มสาวเกาหลี "บิ๊กอายส์" จึงขายดิบขายดีและมีราคาถูกมากจนน่าใจหายอันตรายคืบคลานเข้าใกล้ตาแต่พวกเรายังชะล่าใจ

ดังที่ว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" มัน จึงเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อวัยวะชิ้นนี้มีกลไกการทำ งานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน เป็นระบบประสาทที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประสาทรับความ รู้สึกอื่นๆ

แต่ตราบใดที่เรายังมองเห็นได้ดี ไม่มีโรคตามมากวดหัวใจ เราจึงมักละเลยที่จะดูแลรักษาให้ตาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีให้นานที่สุด แถมยังใช้สายตาไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงเรื่อยๆ แต่พวกเราไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้กระแส "ตาแบ๊ว" ไม่ใช่แค่แฟชั่นมาประเดี๋ยวก็ไป แต่มันกำลังจะหยั่งรากฝังลึกในดวงตาทุกคู่

ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าให้เราฟังว่าในแต่ละปี เยาวชนใส่คอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพ และรู้สึกเอาเองว่าใช้ได้เหมือนสินค้าทั่วไป แต่ความจริงแล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ มันต้องทำให้เราใช้สายตาได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นหลัก

คอนแทคเลนส์สีหรือที่เรียกกันว่า บิ๊กอายส์ นั้นจัดอยู่ในหมวดคอสเมติก ถูกสร้างมาเป็นพิเศษด้วยการใส่เม็ดสีที่สามารถพรางสีม่านตาเดิมให้เป็นสีที่ ต้องการได้ จึงใส่ไม่สบายเท่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นๆ และเนื่องจากมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงมีอัตราการซึมผ่านของออกซิเจนน้อยกว่า ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาขยายเกินขอบเขตของช่อง ทำให้การมองเห็นอาจมีประสิทธิภาพด้อยลง

ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือผลกระทบระยะยาวมากกว่า เพราะการใช้คอนแทคเลนส์สีแบบผิดๆ และใช้สินค้าด้อยคุณภาพ อาจทำให้ติดเชื้อและลุกลามเรื้อรังในหนังตาและสุขภาพกระจกตาเสื่อมก่อนวัย

คุณนพพร ภัทรรุจี ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าบริษัท ซีบาวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเสริมว่าคนใส่คอนแทคเลนส์ มีไลฟ์สไตล์ ใช้สายตาอย่างหนักหน่วงมากเกินไป พวกเขาใส่มันนานกว่า 8-10 ชั่วโมงและอยู่กับวัสดุที่ไม่สามารถส่งผ่านออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์กระจก ตาได้เพียงพอ

จึงเป็นที่มาของภาวะ การขาดออกซิเจนของกระจกตา นำมาซึ่งภาวะกระจกตาชราเกินวัย โดยจะมีอาการตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุระคายเคือง มองเห็นภาพมัว หรือแสงรุ้งรอบดวงไฟ มองภาพไม่ชัดเจน เหมือนสายตาสั้น เพิ่มขึ้นเพราะกระจกตาบวม จนไม่สามารถทนใส่คอนแทคเลนส์ได้นาน หรือไม่ได้เลยในที่สุด

ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มสาวๆ ทั้งหลายจะ "แอ๊บแบ๊ว" ดร.ดนัยบอกทางป้องกันไว้ว่า ผู้ใส่ต้องมีกฎเหล็ก เมื่อตัดสินใจใส่คอนเทคเลนส์ควรแวะไปให้จักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรวิเคราะห์ ความเหมาะสม หรือข้อจำกัดเฉพาะตัวก่อน เช่น บางคนกระจกตาบางมาก จึงไม่เหมาะกับคนแทคเลนส์ชนิดใดเลย หรือคนที่สายตาเอียงต้องใช้คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้น

เมื่อไร้ปัญหาใดๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่มีการรับรองทางการแพทย์ ครั้นใส่แล้ว ก่อนนอนก็ต้องถอดออก และทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด "พยายาม หาวัสดุที่สามารถให้ออกซิเจนผ่านตาได้สูง และอย่าใช้คอนแทคเลนส์ผิดประเภท เช่นรายเดือนก็ต้องใช้เพียงเดือนเดียวแล้วทิ้ง หรืออย่าแลกใส่กับเพื่อน และอย่าเปลี่ยนแบรนด์บ่อยหากใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีกับตัวเองก็อย่าเผลอใจไปกับ โปรโมชั่นเจ้าอื่น และถ้าตามีปัญหา ก็อย่าทนให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน" ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตากล่าว

เทคนิคยืดดวงตา

- สวมแว่นสายตาให้เหมาะสมกับสายตาหากปล่อยทิ้ง คนสายตาสั้นอาจทำให้เกิดตาเหล่ออก คนสายตายาวจะตาเหล่เข้า

- ใส่แว่นตาเป็นประจำ จะทำให้สายตาคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงช้าลง

- ใช้น้ำยาล้างคราบโปรตีนทุกเดือนไม่เปลี่ยนยี่ห้อน้ำยาล้างบ่อยๆ

- พักสายตา 5-10 นาทีหลังใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง

- ระยะอ่านหนังสือไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.

- ห่างจากจอทีวีอย่างน้อย 4 เท่าของขนาดจอ

หมั่นตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาว...

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

โลกตะลึง! มนุษย์ตัวอ่อนที่สุดในโลก

สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเรื่องของ "โมเสส แลนห์แฮม" หนุ่มใหญ่วัย 49 ปีในมลรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ที่คนทั่วโลกรู้จักเขาดีในนาม "คุณมนุษย์ตัวอ่อน" โดยเขาสามารถบิดศีรษะกับเท้าไปคนละทิศทางได้กว่า 120 องศา ซึ่งในขณะนี้เขามีเป้าหมายใหม่กับการสร้างสถิติโลกบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ค

โดยเป้าหมายใหม่ของ แลนห์แฮม ในครั้งนี้ คือ เขาจะบิดศีรษะและเท้าไปคนละทิศทาง 120 องศาหรือมากกว่าอย่างที่เขาชำนาญ พร้อมกับจะเดินเท้าด้วยลักษณะแบบนั้นไปในระยะ 20 เมตร ซึ่งหากทำได้จะกลายเป็นสถิติใหม่ที่โลกต้องจารึกไว้ทันที

"ผมรู้ว่าผมสามารถหักนิ้วเท้าและเท้ามาทางด้านหลังได้ แต่ตามสถิติผมยังทำได้แค่ 120 องศา ทุกครั้งที่ผมนั่งลง ผมจะไขว้ขาให้ปลายเท้าชนกัน เพราะสำหรับผมแล้ว มันรู้สึกสบายกว่า" แลนห์แฮมกล่าว

แลนห์แฮมค้นพบความสามารถนี้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุในชั้นเรียนยิมนาสติกที่โรงเรียนเมื่อตอนเขาอายุเพียง 14 ปี ขณะที่เขาใช้ห่วงออกกำลังและเกิดพลาดพลั้งตกลงมาจากระดับความสูงตึก 2 ชั้น แต่เขากลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย แลนห์แฮมได้ัรับการวินิจฉัยว่า มีเนื้อเยื่อกระดูกบริเวณข้อต่อเป็นจำนวนมากตั้งแต่เกิด จึงทำให้เข่า สะโพก หรือข้อเท้าของเขาสามารถมีความยืดหยุ่นได้อย่างน่าทึ่ง

  

แพทริก ชวาร์เซเนกเกอร์ - ลูกชายคนเหล็ก อาโนลล์ หล่อลากดิน!!

'แพทริก ชวาร์เซเนกเกอร์'ลูกชายคนเหล็ก'อาโนลล์'หล่อลากดิน!!

รู้กันรึเปล่าจ๊ะ !!ว่า อดีตผู้ว่าการ รัฐเท็กซัส  อย่าง คนเหล็ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ นั้น มีลูกชายที่หล่อล่ำ และ น่ากิน แบบสุดๆ 

และ หนุ่ม น้อยคนนั้นก็มีชื่อว่า แพทริค ชวาร์เซเนกเกอร์ ที่ ตอนนี้สาวน้อยสาวใหญ่ต่างหลงใหลได้ปลื้มสุดๆ วันนี้เลยขอขันอาสานำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของหนุ่มน้อยน่าหม่ำคนนี้มาให้ได้ รู้จักกันมากยิ่งขึ้น...ช้าอยู่ใยไปดูกันเล๊ย!! 

หนุ่ม แพทริค ชวาร์เซเนกเกอร์ นั้นเป็นทายาทคนที่ 3 ของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ และภรรยาอย่าง มาเรีย ชไรเวอร์   ใครจะเชื่อว่าใน ขณะที่ คุณพ่อของหนุ่ม แพทริค อย่าง อาโนลล์ นั้นตกเป็นข่าวฉาวว่ามีลูกนอกสมรสกับแม่บ้าน  หนุ่มวัย 17 ปีคนนี้กลับได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบให้กับ L.A. Models ที่มีแผนการจะผลักดันให้เขาได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสำหรับแบรนด์ดังอย่าง Ralph Lauren และ Armani ซะงั้น ! 

หล่อ ล่ำ น่าหม่ำ ขนาดนี้ คาดว่า สาวๆคงอยากจะฝากเนื้อฝากตัวเป็นว่าที่สะใภ้ของคนเหล็กกันเป็นแถวแล้วใช่รึเปล่าเอ่ย!! 

นักวิจัยผงะ! พวงมาลัยรถหมักหมม เชื้อโรคมากกว่าโถส้วม 9 เท่า

นักวิจัยผงะ! พวงมาลัยรถหมักหมม เชื้อโรคมากกว่าโถส้วม 9 เท่า

ส้วมเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค โดยเฉพาะส้วมสาธารณะที่คนเข้ามาใช้ไม่ซ้ำหน้า สาธารณสุขทุกประเทศจึงพยายามรณรงค์ให้เด็กๆ ล้างมือฟอกสบู่หลังจากใช้ส้วมทุกครั้ง แต่ไม่น่าเชื่อว่าส้วมที่ว่ามีเชื้อโรคเยอะแล้วยังสกปรกไม่เท่าพวงมาลัยของรถยนต์บางคัน โดยผลการศึกษาชิ้นล่าสุดจากอังกฤษพบว่า พวงมาลัยของรถยนต์มีเชื้อโรคมากกว่าที่นั่งในส้วมสาธารณะถึง 9 เท่า

ดร.รอน คัตเลอร์ ผู้อำนวยการคณะวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยควีนแมรี่ กรุงลอนดอนของอังกฤษ กล่าวว่า ห้องส้วมมีแบคทีเรีย 80 ตัวต่อตารางนิ้ว แต่พวงมาลัยรถกลับมีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายเกือบ 700 ตัวบนเนื้อที่เท่ากัน

จากการศึกษาพบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ 42% ชอบขับไปกินไป และมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ทำความสะอาดในรถ ด้วยความถี่เฉลี่ย 1 ครั้งต่อปี ขณะที่อีก 10% บอกว่าไม่เคยเก็บกวดรถหรือดูดฝุ่นเลย

"แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่รถบางคันที่เราพบ กลับเป็นบ้านของเชื้อโรคร้าย เช่น เชื้อบาซิลลัส เซเรอัส ซึ่งพบในข้าว ขนมปังและมันฝรั่ง ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งพบได้ทั่วไปในรถหลายคัน คนส่วนใหญ่ทำความสะอาดบ้าน แต่กลับละเลยการทำความสะอาดภายในรถ และเดินทางไปไหนมาไหนด้วยการขับยานพาหนะที่สกปรกเหมือนถังขยะ"

รถยนต์เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี โดยเฉพาะคนที่ชอบกินอาหารและทิ้งเศษอาหารไว้ในรถ คำแนะนำจากนักสุขอนามัยคือ ทำความสะอาดภายในรถเป็นประจำ

"พิงค์กี้" รับ หนังอินเดีย แป๊ก

"พิงค์กี้" รับ หนังอินเดีย แป๊ก

พิงค์กี้-สาวิกา ไชยเดช ยอมรับหนังเรื่องแรกกับอินเดียแป๊ก “หนังตอนนี้ฉายไปแล้วกระแสก็ดีนะ อาจจะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ประชาชนที่โน่นก็ชอบเรานะ ดีใจที่เขาชอบเรา เข้าไปอ่านคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ต ก็มีคอมเมนต์หลายๆ อย่างเราก็ฟัง คิดว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้หนังไม่ประสบความสำเร็จ คือที่โน่นหนังเยอะมาก ปีๆ หนึ่งมันมีให้เลือกดูเยอะ แล้วหนังที่กี้เล่นเนี่ยทั้งพระเอกนางเอกก็เป็นนักแสดงใหม่เลย แต่ได้แค่นี้สำหรับกี้ก็คิดว่าพอใจแล้ว จะมีเล่นเรื่องต่อไปอีกมั้ย ก็มีติดต่อพูดคุยกันอยู่เหมือนกัน แต่กี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ถ้าจะต้องกลับไปทำงานที่โน่นก็คงต้องรอเวลาสักพัก ตอนนี้ขอทำงานที่เมืองไทยก่อน กี้กำลังจะถ่ายละครทองประกายแสด"

http://asianfuse.net/discuzz/index.php

(พี่กี้สวยมากค่า^^)

ชวนประกวดเต้นโคฟเวอร์

       

Mono Music ร่วมกับ Music.Mthai ร่วมปลุกกระแส T-POP ให้ฟีเวอร์
ในการประกวดเต้นโคฟเวอร์เพลง Low Sugar ของ 5 สาว Candy Mafia
“Candy Mafia Low Sugar T-POP Fever Cover Dance Contest”
ชิงเงินรางวัลรวม 20,000 บาท พร้อมมีโอกาสโชว์เวทีเดียวกับ Candy Mafia

รูปแบบการประกวด

รวมทีม 3 คนขึ้นไป ไม่จำกัดเพศและอายุ อัดคลิปเต้น Cover เพลง Low Sugar ซิงเกิ้ลล่าสุดจาก Candy Mafia ที่เจ๋งสุด แล้ว upload ขึ้นเว็บไซต์ YouTube.com แล้วนำลิ้งค์มาลงทะเบียนเข้าประกวดในเว็บhttp://mthai.music.com ในช่วงสัปดาห์ที่ต้องการประกวดดังนี้

สัปดาห์ที่ 1:            17 กันยายน 2554 – 23 กันยายน 2554
สัปดาห์ที่ 2:            24 กันยายน 2554 – 30 กันยายน 2554
สัปดาห์ที่ 3:            1 ตุลาคม 2554 – 7 ตุลาคม 2554
สัปดาห์ที่ 4:            8 ตุลาคม 2554 – 14 ตุลาคม 2554

การตัดสิน

-  การประกวดตัดสินทุกสัปดาห์ โดยจะดูจำนวนคนกด Like ในหน้าคลิป YouTube ของทีมนั้นๆ ในวันศุกร์ เวลา18.00น. ของแต่ละสัปดาห์  รวบรวมคะแนน Like ตั้งแต่วันเสาร์ 00.00 น. – วันศุกร์ 18.00 น. ประกาศผลวันศุกร์18.30 น.
-  การตัดสินจะไม่นับรวมคะแนนเดิมของสัปดาห์ก่อนหน้า   ทีมผู้ประกวดต้อง Upload คลิปเต้นใหม่อีกครั้งในวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่ 00.00 น. (ดูวันที่ Upload ขึ้น YouTube)
-  ถ้าผู้ประกวดใช้คลิปเก่ามา Upload ใหม่ถือว่าเป็นโมฆะ
-  ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศแล้วสามารถส่งเข้าประกวดได้อีกในสัปดาห์ถัดไป (ต้องถ่ายทำใหม่ และ Upload ใหม่ในสัปดาห์นั้น)

รางวัล

– รางวัลทีมชนะเลิศในแต่ละสัปดาห์จะได้รับ เงินรางวัล 5,000 บาท *
-  ผู้ร่วมแข่งขันทุกท่าน จะได้รับ CD Package อัลบั้มเต็ม Candy Mafia คนละ 1แผ่น **
- ทีมผู้ชนะในแต่ละสัปดาห์ได้โอกาสร่วมโชว์ในงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม Candy Maifa ***

* หักภาษี ณ ที่จ่าย 5%** ต้องมารับ CD Package ในงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม Candy Mafia ถ้ามาไม่ได้ถือว่าสละสิทธิ์ สถานที่ และเวลาจะแจ้งให้ทราบทาง www.facebook.com/monomusic*** สิทธิ์ สถานที่ และเวลาจะแจ้งให้ทราบทาง www.facebook.com/monomusic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถโพสต์คำถามไว้ที่ www.facebook.com/monomusic หรือwww.twitter.com/mono_music

เนื้อเพลง Low Sugar – Candy Mafia (แคนดี้ มาเฟีย)

บางทีเธอไม่เอาใจใส่ บางทีเธอก็ดูนิ่งไป
บางวันพูดแต่ รัก รัก รัก แต่ไม่เห็นจะทำอะไร
อยากเจอเธอก็ไม่ชอบอยู่ แล้วยังบอกว่า I miss you
ไม่เคยจะมาทำซึ้ง ซึ้ง hey boy what you can do?

เหมือนรักมีความหวานที่ต่ำไป ฉันขอเตือนเธอไว้หากเผลอไป
รีบ ๆ ปรับตัว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ

อยากมีคนรักคนเอาใจ ไม่ปล่อยให้ต้องเหงาใจบ่อย ๆ
ถ้ารักฉัน take care อีกหน่อย อย่ามัวแต่เฉยชา
อยากจะรักต้องเอาใจ เพิ่มความหวานให้หัวใจทุกเวลา
นะนะนะ เธอช่วยฉันหน่อย อย่าปล่อยให้ความรัก Low Sugar

หลัง ๆ เธอดูอาการหนัก ฉันชอบอะไรเธอไม่รู้
เวลาที่ฉัน นอยด์ นอยด์ นอยด์ hey boyfriend where are u?

อันตรายของความผอม!

ผอมอย่างใจ แต่กลายเป็นคนขี้โรค ลดน้ำหนักจนต่ำกว่าเกณฑ์
ระวัง 10 ระบบร่างกายรวน ..

บางคนซีเรียสกับน้ำหนักตัวจนเกินไป ถึงกับต้องล้วงคอเพื่อให้อาเจียนเอาอาหารที่เพิ่งทานเข้าไปออกมา หรือที่เรียกว่า โรคบูลิเมีย เนอร์โวซา ขณะที่บางรายถึงกับจำกัดอาหาร ลดปริมาณให้น้อยที่สุด ลดจำนวนมื้อ เลือกกินอาหารเพียงบางหมวดหมู่ เพราะไม่ต้องการให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากทุกครั้งที่ส่องกระจกจะรู้สึกว่า ตัวเองอ้วนเกินไป ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว คนๆนั้นมีรูปร่างที่พอดีหรือผอมไปด้วยซ้ำ อย่างนี้เข้าข่าย โรคอะนอร์เร็กเซีย เนอร์โวซา ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชนั่นเอง

การลดน้ำหนักจำเป็นสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนเพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพ แต่ถ้าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมก็ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะการที่ร่างกายผอมเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกาย 10 ระบบด้วยกัน ประกอบด้วย

‘ระบบประสาทและสมอง’ ความกังวลเรื่องน้ำหนัก ยังทำให้เป็นโรคซึมเศร้า หงุดหงิดและฉุนเฉียวง่าย ร่างกายอ่อนแอ จนเป็นลด หน้ามืด

‘เส้นผม’ คนผอมแล้วยังพยายามลดหุ่น เส้นผมจะเปราะขาดง่ายและไม่แข็งแรง เพราะขาดวิตามินและโปรตีน 

‘ระบบหัวใจ’ หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ เสี่ยงหัวใจวาย และความดันโลหิตต่ำ

‘ระบบเลือด’ การขาดสารอาหารในคนผอมมีผลให้โลหิตจาง

‘ระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ’ กล้ามเนื้อจะอ่อนแรง กระดูกพรุน และกระดูกหักง่าย

‘ระบบไต’ ทำให้เกิดอาการไตวาย และนิ่วในไต

‘ระบบสารอาหารและสารน้ำในร่างกาย’ จะขาดเกลือแร่หลายชนิด อาทิ โซเดียม โปแตสเซียม และแมกนีเซียม 

‘ระบบทางเดินอาหาร’ มักแปรปรวนให้ผู้นั้นมีอาการท้องอืด และท้องผูกบ่อยๆ

‘ระบบฮอร์โมนและต่อมไร้ท่อ’ เมื่อขาดสารอาหารจะทำให้ขาดฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะในเพศหญิง ประจำเดือนจะน้อยลงหรือขาดประจำเดือน มีบุตรยาก หากตั้งครรภ์ก็เสี่ยงแท้งบุตรง่าย บุตรน้ำหนักตัวน้อย กระดูกบาง ขาดโกรทฮอร์โมน ทำให้ร่างกายเติบช้า และอ่อนเพลีย

‘ผิวหนัง’ โดยสภาพผิวจะแห้งและบาง พบจ้ำเลือดได้ง่าย รวมถึงผิวเหลืองซีด ขี้หนาว เล็บเปราะบางแตกง่าย

และกรณีที่ควบคุมน้ำหนักด้วยการล้วงคอให้อาเจียนบ่อยๆ ก็ยังทำให้ผู้นั้นเกิดแผลในช่องปากและกระพุ้งแก้มฟันผุ และเกิดอาการเสียวฟัน เพราะถูกกรดในกระเพาะอาหารที่ย้อนขึ้นมากับอาเจียนกัดทำลาย

ผลเสียมีมากขนาดนี้ ถ้ามีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมแล้ว อย่าลดน้ำหนักให้เสียสุขภาพเลย. 

นสพ.เดลินิวส์

ทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพ

 

กรุ๊ป A นักมังสวิรัติดี ๆ นี่เอง

          คนเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และมะเร็ง กรุ๊ปเอจึงถูกจัดเป็นมังสวิรัติ

อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
          กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้งเพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาจกินได้นิดหน่อย เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ แทนนมวัว กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่าง ๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบาง ๆ และถั่วเหลือง เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามารถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง ผักทั้งสด และสุกกินแล้วดีโดยเฉพาะหอมหัวใหญ่ และบร็อคโคลี มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน 

          กินผลไม้แทบทุกชนิด ยกเว้นแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้ แต่ควรเลี่ยงเบียร์ และน้ำอัดลม

 

กรุ๊ป B อ้วนง่าย

          คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี ชอบปวดตามข้อ ซึ่งไม่ใช่อาการของเกาต์หรือรูมาตอยด์ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (sclerosis) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง

อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
          เนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง ควรกินปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว อย่างปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว หลีกเลี่ยง เนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง เพราะจะรบกวนระบบในร่างกาย สามารถกินนม เนย ไข่ ในปริมาณที่เหมาะสมได้ ข้าวโอ๊ต และข้าวกล้องดีต่อคนเลือดกรุ๊ปนี้ขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง และโฮลวีท ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้อ้วนและไม่ดีต่อเลือด อาจเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตแตกควรลองแป้งสเปลท์ (spelt) ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีไฟเบอร์สูง ผักใบเขียวทุกชนิดกินดีหมด เพราะมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการผื่นคัน แต่ถ้าอยู่ระหว่างไดเอ็ทควรหลีกเลี่ยงมะเขือเทศ และข้าวโพด เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลิน และระบบเผาผลาญ 

          กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น ลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์คือ ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว

กรุ๊ป O High Protein
          ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า

อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
          เลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และไทรอยด์ แต่ระวังเรื่องไขมันและโคเรสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่าง ๆ ผัก กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร็อคโคลี ผักโขม มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ส่วนผักตระกูลกะหล่ำควรหลีกเลี่ยงเพราะมีผลต่อไทรอยด์ เห็ดหอมและมะกอกดองทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาว และมันฝรั่งทำให้ปวดข้อ 

          ผลไม้กินได้แทบทุกชนิดโดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี่ (ยกเว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และสตรอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชา สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ อาทิเปปเปอร์มินท์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะให้หนักเข้าไปอีก

กรุ๊ป AB มังสวิรัติ และคาร์โบไฮเดรต
          กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B ดังนั้นวิธีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อย ๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิด ๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และกรดในกระเพาะต่ำ

อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
          ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารสามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ 

          ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม..