วิธีทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์

วิธีทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์

ในแต่ละวันสิ่งหนึ่งที่เราต้องอยู่คู่และใช้งานเป็นประจำ คงจะหนีไม่พ้นเจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเน็ต ช้อปปิ้งออนไลน์ เปิด Facebook ส่วนใหญ่ก็ต้องอยู่หน้าคอมกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่สาวๆ หลายคนจะหลงลืมไปคือเรื่องความสะอาด โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ของเราเป็นสิ่งที่เราต้องสัมผัสอยู่ทุกวัน ดังนั้นจึงต้องหมั่นใส่ใจและทำความสะอาดกันบ้าง เพราะถ้าเกิดเราเผลอเอามือสกปรกไปจับหน้าละก็ มีหวังสิวทั้งหลายได้มาเยืนบนใบหน้าของเราแน่นอน เห็นมั้ยคะถึงม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ทว่าก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ของใครบางคนก็ได้นะ

ตัวคอมพิวเตอร์และหน้าจอก่อนจะทำความสะอาดเราควรถอดปลั๊กและปิดเครื่องให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นให้ฉีดน้ำยาทำความสะอาดสำหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ฉีดลงไปบนผ้าที่ชุบน้ำพอหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดให้ทั่วทั้งตัวคอม และขอบหน้าจอพยายามบิดน้ำออกให้มากที่สุดอย่าให้น้ำหยดลงบนตัวคอม จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้แห้ง

คีย์บอร์ดไม่ว่าจะเป็นเศษผม หรือเศษขนม ผงฝุ่นต่างๆ ที่มักจะลงไปติดอยู่ในคีย์บอร์ดของเรา วิธีการทำความสะอาด ถอดสายพ่วงตัวคีย์บอร์ดออก จากนั้นคว่ำแป้นคีย์บอร์ดลง แล้วค่อยๆ เขย่าอย่างระมัดระวัง แล้วใช้ไดร์เป่าผมค่อยเป่าเศษต่างๆออก นำผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาด มาเช็ดให้ทั่วแป้นพิมพ์ หากมีเศษ เล็ก ๆ หรือ คราบที่ติดอยู่ตรงซอกลึก ๆ ก็ให้ใช้ สำลีแบบก้าน ชุบน้ำยา แล้วนำมาเช็ดอีกที จากนั้นก็ปล่อยให้แห้ง

เม้าส์ถอดสายพ่วงเม้าส์ออกจากตัวคอมฯ แล้วเริ่มทำความสะอาดจากกรอบภายนอก ด้วย ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาด ถ้าเม้าส์เป็นแบบลูกกลิ้ง อยู่ด้านใน ต้องคว่ำลง แล้วหมุนฝาปิดออก นส่วนของเม้าส์ ควรจะทำความสะอาด บ่อยๆ คือ เดือนละครั้ง จะช่วยให้เม้าส์ใช้งานได้สะดวก ไม่ติดขัด เห็นมั้ยคะ ง่ายๆ เพียงแค่นี้เอง สาวสัมยใหม่อย่างเราใช่ว่าจะเก่งแต่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้นนะคะ เรื่องการดูแลรักษาและความสะอาดก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจ ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าว่าควรทำความสะอาดอยู่เป็นประจำหรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อสุขอนามัยของเรากันนะคะ

โรคอ้วน

โรคอ้วน

พูดถึงโรคอ้วนกันมาก เป็นอย่างไร /Kee

ตอบ kee

โรคอ้วน (Obesity) หมายถึง ความผิดปกติจากการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เนื่องจากร่างกายมีภาวะไขมันสะสมตามอวัยวะส่วนต่างๆ มากเกินกว่าปกติ โรคอ้วนแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ 1.อ้วนแบบลูกแอปเปิ้ล (apple-shape obesity) หรือ อ้วนลงพุง (central obesity) คือคนอ้วนที่มีรอบเอวใหญ่กว่ารอบสะโพก เกิดจากมีไขมันสะสมมากในช่องท้องและอวัยวะภายใน ไขมันที่อยู่ในอวัยวะภายในนี้จะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง

2.อ้วนแบบลูกแพร์ (pear-shape obesity) หรืออ้วนชนิดสะโพกใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่พบในเพศหญิง โดยจะมีไขมันสะสมอยู่มากบริเวณสะโพกและน่อง อ้วนลักษณะนี้ยากต่อการลดน้ำหนัก แต่โอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ จะน้อยกว่าชนิดแรก 3.อ้วนทั้งตัว (generalized obesity) ได้แก่ คนอ้วนที่มีไขมันทั้งตัวมากกว่าปกติกระจายตัวอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยรอบ มีทั้งลงพุงและสะโพกใหญ่ รวมถึงมีโรคแทรกซ้อนทุกอย่างดังกล่าว และโรคที่เกิดจากน้ำหนักตัวมากโดยตรง เช่น โรคทางไขข้อ ปวดข้อ ข้อเสื่อม ปวดหลัง เหนื่อยง่าย หายใจลำบากเพราะไขมันสะสม ทำให้ระบบหายใจทำงานติดขัด

สาเหตุสำคัญของโรคอ้วน เกิดจากการที่คนเราใช้พลังงานน้อยกว่าที่ได้รับจากการรับประทานอาหาร พลังงานที่ได้จึงมากเกินความต้องการในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินไว้ในรูปไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความอ้วน ดังนี้

1.กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อและแม่อ้วนทั้งคู่ ลูกจะมีโอกาสอ้วนถึงร้อยละ 80 แต่ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งอ้วน ลูกจะมีโอกาสอ้วนร้อยละ 40

2.นิสัยจากการรับประทานอาหาร คนที่มีนิสัยการรับประทานอาหารไม่ดี หรือที่เรียกกันว่ากินจุบจิบ ไม่เป็นเวลา ก็ทำให้อ้วนขึ้นได้

3.การไม่ออกกำลังกาย ถ้ารับประทานอาหารมากเกินพอดี แต่ออกกำลังกายบ้าง ก็อาจทำให้ยืดเวลาความอ้วน แต่ถ้ารับประทานอาหารที่มากเกินพอดีแล้วนั่งๆ นอนๆ โดยไร้ซึ่งการยืดเส้นยืดสาย ในไม่ช้าก็จะเกิดการสะสมไขมันในร่างกาย 

4.อารมณ์และจิตใจ มีบางคนที่รับประทานอาหารตามอารมณ์และจิตใจ เช่น กินเพื่อดับความโกรธแค้น กลุ้มใจ กังวลใจ คนเหล่านี้จะรู้สึกว่าอาหารทำให้ใจสงบ จึงยึดอาหารไว้เป็นสิ่งสร้างความสบายใจ แต่ในทางกลับกัน คนที่รู้สึกเสียใจ กลุ้มใจ กินอาหารไม่ได้ ถ้าในระยะเวลานานๆ ก็มีผลทำให้เกิดการขาดอาหารได้

5.ความไม่สมดุลกับความรู้สึกอิ่ม ความหิว ความอยากอาหาร เมื่อใดที่ความอยากกินเพิ่มขึ้น การบริโภคก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจถึงขั้นกินจุ และในที่สุดก็จะทำให้เกิดความอ้วน

6.เพศ ผู้หญิงอ้วนได้ง่ายกว่าผู้ชาย เพราะโดยธรรมชาติมักสรรหา อาหารมากินได้ตลอดเวลา อีกทั้งผู้หญิงจะต้องตั้งครรภ์ ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้น เพราะต้องกินอาหารมากขึ้นเพื่อบำรุงร่างกายและทารกในครรภ์ และหลังคลอดบุตรแล้วก็ไม่สามารถลดน้ำหนักลงให้เท่ากับเมื่อก่อนตั้งครรภ์ได้

7.อายุ เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสที่จะอ้วนก็เพิ่มขึ้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้พลังงานน้อยลง

8.กระบวนการทางเคมีที่เกิดกับร่างกาย

9.ยา ผู้ป่วยบางโรคจะได้รับสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ทำให้อ้วนได้ และในผู้หญิงที่ฉีดยาหรือใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน

วิธีการลดความอ้วน ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ปรับพฤติกรรม ให้เหมาะสม

พิ้งกี้ ได้เล่นละครเอ็กแซ็กท์ แน่

ตั้งแต่เจอมรสุมข่าวฉาวจนไม่เห็นนางเอกหน้าคม พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช มีผลงานละครทางช่องฟรีทีวีให้เห็นมาปีกว่าแล้ว แต่ล่าสุดแว่วมาว่าสาวพิ้งกี้ได้รับการทาบทามจากค่ายเอ็กแซ็กท์ให้มาเล่นละคร “มารยาริษยา” งานนี้เจอตัวสาวพิ้งกี้ที่มาร่วมงานเปิดสวนสนุกสามย่านฟันแฟร์ ที่สามย่าน เลยขออัพเดทเรื่องละครว่าคอนเฟิร์มว่าเล่นหรือยัง เจ้าตัวก็ยอมรับว่า

พิ้งกี้ เผยว่า “ก็ใช่ค่ะ พี่ป้อน-นิพนต์ติดต่อมาค่ะ ต้องขอบคุณพี่บอยด้วยที่ให้ความเมตตากี้ค่ะ” คุยกันไปถึงไหนแล้ว? “คุยเท่าที่บอกไปค่ะ แต่เรื่องเปิดกล้องหรืออะไรต้องให้ผู้ใหญ่ออกมาบอกว่าจะเปิดเมื่อไหร่ เพราะเราเป็นนักแสดงก็รอเมื่อไหร่จะเปิดกล้องเท่านั้นเอง” ...บทบาทเป็นยังไงบ้าง... “บทบาทดีเลยค่ะ ต้องขอบคุณเอ็กแซ็กท์ค่ะที่ให้โอกาสบทดี ๆ แบบนี้สำหรับเรา บทเข้มข้นน่าสนใจค่ะ แต่เล่นกับใครยังไม่ทราบเลยค่ะต้องรอ ม.ค. อีกที” ได้คุยเรื่องสัญญากันมั้ย? “ไม่ได้คุยเลยค่ะ ผู้ใหญ่คุยกันสักพักแต่ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ตอนนี้น่าจะได้รู้กันเดือนหน้าค่ะ” ...เป็นนางเอกเต็มตัวมั้ย... “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะต้องรอผู้ใหญ่พูดอีกทีค่ะ”

จากอาร์เอสช่อง 8 ไปเอ็กแซ็กท์กลัวคนมองมั้ยข้ามช่อง? “ก็ไม่ทราบนะคะ เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา เราก็จะเล่นเต็มที่ให้ดีที่สุดค่ะ” ...เตรียมตัวยังไงกับกระแสตอบรับ... “เราก็จะเล่นให้ดีที่สุดค่ะ แล้วก็ไม่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวังค่ะ” ใช่เรื่องมารยาริษยาหรือเปล่า? “เท่าที่รู้ก็ตามที่พี่รู้เลยค่ะ แต่ก็ไม่แน่ไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่าก็ไม่ทราบต้องรอผู้ใหญ่พูด” ...เป็นนางเอกร้าย ๆ ใช่มั้ย... “เท่าที่รู้คืออย่างนั้นนะคะ” เจอคุณบอย-ถกลเกียรติหรือยัง? “ยังเลยค่ะเจอแต่พี่ป้อน”

credit : นสพ. เดลินิวส์ ,

อาหารที่ทำให้ขาใหญ่ (โดยไม่รู้ตัว)

       คุณรู้หรือไม่ว่า ยำ ส้มตำ และเมนูอาหารรสเผ็ดจัดจ้านจานอื่น ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของคุณผู้หญิงทั้งหลายนั้น ล้วนเป็นเมนูที่จะทำให้คุณผู้หญิงต้องกลับมานั่งกลุ้มใจกับปัญหาขาใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัว

เนื่องจากอาหารรสเผ็ดมีทั้งรสเผ็ด เปรี้ยว หวานซึ่งช่วยกันกลบรสเค็มไว้ ทำให้ความเค็มที่มาจากโซเดียมซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ในเนื้อเยื่อไหลลงสู่ที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ ที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดต้องนั่งกลุ้มกุมขมับกับปัญหาขาใหญ่อย่างไม่รู้สาเหตุ

ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาก็คือ ไม่ควรกินอาหารรสเค็มและเผ็ดบ่อยจนเกินไป แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีผักและผลไม้ ทั้งยังต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรูปร่างที่สวยงามและสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนี้อาจแก้ปัญหาขาใหญ่ได้ด้วยการนวดกดจุด โดยการนวดเอาน้ำที่บวมคั่งในกล้ามเนื้อขาออกไปทางระบบน้ำเหลือง ซึ่งจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แล้วขาของคุณผู้หญิงก็จะค่อย ๆ เล็กลง กลับมาเรียวสวยเหมือนเดิม

เคล็ดลับดูแลผมทำสี

เคล็ดลับดูแลผมทำสี

เคล็ดลับสำหรับสาวๆ ที่อาจจะเพิ่งเริ่มทำสีผม ลองอ่านดูจ๊า

เริ่มแรกเลยนะคะ หลังจากที่เราทำสีผมไปเรียบร้อยแล้ว อันดับแรกควรงดการสระผมอย่างน้อย 2 วัน เพราะว่าน้ำสามารถทำให้สีผมหลุดลอกออกไปได้ และอีกอย่างคือ ไม่ควรจะสระผมบ่อยจนเกินไป เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สีผมหลุดลอก เพราะฉะนั้นแนะนำว่า วันหนึ่งไม่ควรสระผมมากเกินกว่า 1 ครั้ง และควรที่จะใช้ยาสระผมที่ออกแบบมาเพื่อผมทำสีโดยเฉพาะ จะเป็นอะไรที่เข้ากับเส้นผมของเรามากกว่า

และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือความร้อน เนื่องจากผมทำสี อาจจะทำให้เกล็ดผมของเราโดนทำลาย ดังนั้นถ้าจะไดร์ผมหรือม้วนผม ควรหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องความร้อนแก่เส้นผม ผมจะได้ไม่ถูกทำลายมากขึ้น ที่สำคัญควรหมั่นอบไอน้ำ เพราะการอบไอน้ำเป็นการบำรุงผมด้วยสารบำรุงที่สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงโซน เกล็ดผมที่ช่วยบำรุงชั้นเซราไมด์ตามธรรมชาติให้คืนความนุ่มลื่นและทำให้ เกล็ดผมปิดและเรียงตัวกันได้ดีขึ้นคะ

ขอขอบคุณแฮร์สไตลิสท์
คุณน้อง – ฉวีวรรณ เหมะอุรินทร์ จากร้าน Monsier By P’ Mice / โทร.089-161-8824

7 วิธีจัดตู้เสื้อผ้าให้น่าเปิด

ไหนๆ ก็น้ำท่วม ไปไหนมาไหนลำบาก ชวนสาวๆ ที่บ้านน้ำไม่ท่วมแต่ไปไหนก็ไม่ได้ มาจัดระเบียบตู้เสื้อผ้ากันค่ะ

 

เชื่อว่าตู้เสื้อผ้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายคงจะไม่ค่อยเป็นระเบียบสักเท่าไหร่ ทั้งเสื้อผ้าเยอะแยะ ทั้งของเก่าของใหม่ ผสมปนเปกันไปหมด บางทีอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเสื้ออีกตัวนึงที่ยังไม่เอามาใส่เลย เพราะมันอยู่ด้านในจนเรามองไม่เห็น เพราะโดยปกติของคนเรา มักจะหยิบตัวที่เราเห็น หรือตัวที่หยิบได้ง่ายๆมาใส่ก่อน คิดว่าจะจัดตู้เสื้อผ้าก็อาจจะงง ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี บางทีก็คิดว่าอาจจะต้องใช้เวลามาก วันนี้เราเลยมี 7 วิธีแนะนำในการจัดตู้เสื้อผ้า มันไม่ได้ดีแค่คุณเท่านั้นนะ เวลามีเพื่อนหรือหนุ่มเข้ามาในห้องเค้าจะได้เห็นว่าคุณก็มีระเบียบเหมือนกันและที่สำคัญ มันยังเสริมสร้างความสะอาดอีกด้วยนะ

           

 1. การตั้งเวลาในการจัดตู้เสื้อผ้า

ก่อนที่คุณจะจัดตู้เสื้อผ้า ลองกะเวลาดูสักนิด ว่าคุณจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการจัดตู้เสื้อผ้า สัก 1 ชั่วโมง หรือหากมีตู้ที่ใหญ่ก็ควรเพิ่มเวลา คุณจะได้ไม่ต้องใช้เวลาเรื่อยเปื่อยโดยใช่เหตุ แต่อย่าตั้งเวลาน้อยเกินไปละ เพราะมันจะไปบีบคั้นตัวเองมากเกินไป

 2 . การจัดตู้เสื้อผ้าควรเตรียมถุงไว้

การจัดตู้เสื้อผ้าคุณคงต้องการถุงหรือกระเป๋า เพราะคุณต้องใช้มันแน่นอน ถุงหนึ่งเอาไว้สำหรับเสื้อผ้าที่พอใช้ได้ แต่คุณเห็นว่าคุณไม่ชอบแล้ว คิดว่าคงไม่ใส่ หรือใส่ไม่ได้แล้ว เอาใส่ถุงนี้ไว้เพื่อเอาไว้ไปบริจาค อีกถุงหนึ่งเอาไว้สำหรับใส่ขยะที่ไม่ต้องการ พวกเสื้อผ้าที่อาจจะขาวจนเหลืองซะน่าเกลียด หรืออาจจะขาดไปแล้วก็ใส่ถุงนี้ไว้เพื่อเอาไปทิ้ง แต่อย่าลืมนะว่า บางตัวคุณอาจจะแปรสภาพมันไปเป็นผ้าขี้ริ้วก็ได้

 3. ย้ายทุกสิ่งออกมาเพื่อจัดตู้เสื้อผ้า

นี่คืองานจัดตู้เสื้อผ้าที่หนักที่สุด เพราะคุณต้องทำให้ตู้ของคุณว่างเปล่าทั้งหมด ทั้งเสื้อผ้า กระโปรง กางเกง ชุดชั้นใน ตัวไหนแขวนได้ ก็ใส่ไม้แขวน แล้วพาดไว้บนเตียงซะ ตัวไหนพับได้ก็พับไป

 4. ก่อนจัดตู้เสื้อผ้าต้องแยกเสื้อผ้าเป็นกองๆ

หลังจากเอาออกมาหมดแล้ว ก็ทำการเรียงลำดับเสื้อเป็นกองๆ กองไหนใส่บ่อยๆ กองไหนนานๆใส่ที  จำไว้ว่าอะไรบริจาคได้ก็ทำซะ อย่าไปเสียดาย เพราะไม่นานคุณก็จะมีของชิ้นใหม่มาอยู่ในตู้อย่างแน่นอน นอกจากนี้คุณยังอาจเรียงสีหรือประเภทของเสื้อผ้าด้วยก็ได้ เช่น กางเกงขาสั้น เสื้อยืด เพื่อความสะอาด และเป็นระเบียบกับตู้ของคุณ

 5. ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดจัดตู้เสื้อผ้าไปด้วย

เมื่อตู้ของคุณว่างเปล่าแล้ว ทีนี้แหละคุณจะได้สัมผัสถึงฝุ่นที่มีแบบที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น คุณอาจจะกวาดหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นดูก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกของคุณ ทำให้มันสะอาดซะเพื่อให้ตู้ของคุณรอการนำเสื้อผ้าสวยๆของคุณกลับเข้ามาใส่

 6. จัดตู้เสื้อผ้าโดยนำของแขวนเข้าตู้

นำเสื้อผ้าที่ใส่ไม้แขวนค่อยๆทยอยนำกลับเข้ามาในตู้เสื้อผ้าซะ โดยอาจจะเรียงชนิด อาจจะเป็นกางเกง เสื้อ กระโปรง และอาจจะเรียงสีด้วยก็ได้ เพื่อความเรียบร้อยและสวยงาม มันอาจจะเสียเวลา แต่เชื่อซิว่า เมื่อคุณเปิดตู้มาจะสบายตา และสวยงามมาก ใครมาเห็นก็จะทึ่งในความเป็นระเบียบของคุณ หลังจากนั้นก็ค่อยๆเริ่มเอากองผ้าที่คุณได้จัดเรียงไว้ทยอยเข้าตู้ อย่าลืมว่าอย่ายัด ค่อยเรียงให้เป็นระเบียบนะ

 7. การจัดตู้เสื้อผ้าควรทำซ้ำทุกๆ 4 เดือน

คุณสงสัยใช่ไหมว่า แล้วคุณทำครั้งเดียวหรอ จริงๆแล้ว เสื้อผ้าคุณอาจจะไม่ค่อยรกมากเท่าไหร่ แต่ตู้คุณนั้นจะสกปรกและมีฝุ่นได้ ดังนั้นคุณควรจะจัดตู้เสื้อผ้าทุกๆ 4  เดือน กำลังดี ไม่มากเกินไป หรือถ้าคุณสังเกตว่ามันรกหรือสกปรกแล้วก็ทำเลยก็ได้นะไม่ต้องรอครบเวลา เชื่อซิว่าเสื้อผ้าของคุณจะใหม่สะอาดอยู่เสมอ และยังบ่งบอกนิสัยคุณด้วย

ตอนนี้คุณคงได้วิธีจัดตู้เสื้อผ้าให้สะอาดและเป็นระเบียบแล้วนะคะ หวังว่าคุณจะไม่เพียงอ่านเฉยๆ เอาไปทำด้วย มันจะส่งผลดีมากจริงๆ และถ้าหากคุณมีวิธีจัดตู้เสื้อผ้าอื่นที่แตกต่างไปจากนี้ หรือมีเคล็ดลับอะไรดีๆ ก็มาบอกต่อกันได้เลยค่ะ

‘Candy Mafia’ คว้ารางวัลใหญ่จากเกาหลี

‘Candy Mafia’ คว้ารางวัลใหญ่จากเกาหลี Korean Culture Entertainment Awards 19th

ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเกิร์ลกรุ๊ปไทยอย่าง Candy Mafia (แคนดี้มาเฟีย) ก็สามารถโกอินเตอร์ได้เต็มรูปแบบ แถมล่าสุดยังคว้ารางวัลสาขาศิลปินต่างประเทศที่มีผลงานโดดเด่น ในงาน “ประกาศรางวัลศิลปวัฒนธรรมและบันเทิงเกาหลี ครั้งที่ 19” (Korean Culture Entertainment Awards 19th) มาได้ด้วย เรื่องนี้ เน็ท-ปนัสยา ขอเป็นตัวแทนเพื่อน ๆ เผยว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากค่ะ ที่ผลงานของเราในฐานะศิลปินไทยได้ถูกคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลสาขาศิลปินต่างประเทศ ของงานประกาศรางวัลศิลปวัฒนธรรมและบันเทิงเกาหลี ครั้งที่ 19 ที่เกาหลีใต้ เพราะที่ผ่านมาในรางวัลนี้ยังไม่เคยมีศิลปินไทยได้เข้ารับเลยค่ะ เมื่อพี่ ๆ โมโน มิวสิค มาบอกว่าส่งชื่อเข้าชิงรางวัลไปก็ยังไม่เชื่อคิดว่าอำเล่น ๆ จนทางผู้จัดงานได้ส่งการ์ดเชิญจากเกาหลีมาให้พวกเรา ไปเข้าร่วมรับรางวัลในเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นี้ ถึงแน่ใจว่าพวกเราแคนดี้มาเฟียได้รับรางวัลจริง ๆ ค่ะ ตอนรู้ข่าวว่าได้รับรางวัลนี้ถึงกับน้ำตาคลอเลย เพื่อน ๆ ก็ดีใจและปลื้มใจกันมากคะ ทุกคนหายเหนื่อยเลยทีเดียว ซึ่งพวกเราจะนำเอกลักษณ์ความเป็นไทยไปเผยแพร่ด้วย และเมื่อกลับมาแล้วจะนำภาพเบื้องหลังการรับรางวัลและการโชว์บนเวทีมาฝากอีกครั้งนะคะ ส่วนการประกาศรางวัลศิลปวัฒนธรรมและบันเทิงเกาหลีเคยมีศิลปินดัง ๆ เข้ารับรางวัลมาแล้ว เช่น เรน, ซุปเปอร์จูเนียร์, เกิร์ลส์เจเนอเรชั่น, ดงบังชินกิ, ชายนี่ ค่ะ และศิลปินต่างประเทศที่เคยรับในสาขาเดียวกับพวกเราก็มี เฮร่า จาก จีน และ เพอร์เมเน้นท์ ฟิช จาก ญี่ปุ่น ค่ะ ซึ่งสามารถเข้าชมเว็บไซต์ของงานครั้งนี้ได้ที่ www.entinews.co.kr

ซิงเกิ้ลล่าสุด Honey Honey

ซิงเกิ้ลแรกที่สร้างความฮือฮา กับเพลง Mafia

ซิงเกิ้ลที่2 Alzheimer

ซิงเกิ้ลที่3 Blink Blink

ซิงเกิ้ลที่4 Low Sugar ขณะนี้ทะลุ 1,000,000 วิวไปแล้ว

ผู้หญิงคนหนึ่งกางแขนปกป้องสัตว์ที่เธอรักจนตาย

น้อยคนนักที่รักและปกป้องสัตว์อันเป็นที่รัก   ถึงขนาดห่างบ้านที่สะดวกสบายมาอยู่กลาง ป่าที่มีภัยรอบตัว  ยอมสละได้ทุกสิ่งแม้แต่คนรัก  ไม่ย่อท้อแต่ต้องเจอภัยที่เหมือนฝันร้าย ที่สุด ผู้หญิงคนนี้เคยถูกจับและโหดร้ายที่สุด “เธอถูกข่มขื่น” แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่ ทำให้เธอเลิกที่จะปกป้องกอริลล่าที่เธอรักได้ 

ผู้หญิงคนนี้ทุ่มเทเวลาให้กับการศึกษาความเป็นอยู่ของกอริลลา และปกป้องพวกมัน เหมือนสมาชิกในครอบครัว แต่สิ่งที่เธอได้รับมันช่างน่าเศร้า ลิงที่เธอดูแลถูกฆ่าและแยก ชิ้นส่วนไปขายในราคาไม่กี่เหรียญ ตัวเธอเองถูกจับไปขัง ถูกทำร้าย และในที่สุด เธอก็ถูกฆ่าเหมือนพวกมัน

ไดแอน ฟอสซีย์ (Dian Fossey) (16 มกราคม ค.ศ. 1932 - 26 ธันวาคม ค.ศ. 1985) นักสัตววิทยาชาวอเมริกัน ผู้ทำการศึกษาพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะ กับกอริลลา (วานรวิทยา) เธอมีชื่อเสียงจากการผลงานวิจัยกลุ่มลิงกอริลลาภูเขา ในป่าทึบของประเทศรวันดา มีผลงานเขียนหนังสือ ชื่อ Gorilla in the Mistซึ่งถูกนำมาสร้างเป็น ภาพยนตร์ชื่อ Gorillas in the Mist: The Story of Dian Fossey (1988) หลังจากเธอเสียชีวิต รับบทโดยซิกอร์นีย์ วีเวอร์

ไดแอน ฟอสซีย์ เกิดที่ซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ศึกษาหลักสูตรเตรียมสัตวแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เดวิส แต่ได้เปลี่ยนสาขาไปศึกษาด้านกุมารบำบัด  หลังจบการศึกษาเธอย้ายไปอยู่ที่เมืองหลุยสวิลล์ มลรัฐเคนทักกี ได้งานเป็นหัวหน้าหน่วยบำบัดที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพเด็ก เธอเดินทางไปท่องเที่ยวทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2506 เธอได้พบกับ หลุยส์ ลีกคี นักบรรพชีววิทยาชื่อดังชาวเคนยา  

ไดแอน ฟอสซีย์ ประทับใจกับการเดินทางในแอฟริกา ในสามปีต่อมา เธอได้ร่วมงานกับ ดร.หลุยส์ ลีกคี ทำการโครงการศึกษากอริลลา บริเวณอุทยานแห่งชาติโวลแคโนภูเขาไฟวีรุงกา ในแอฟริกากลาง ครอบคลุมพื้นที่พรมแดน 3 ประเทศคือ รวันดา ยูกันดา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยได้รับความสนับสนุนจาก สมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก 

ไดแอน ฟอสซีย์ ก่อตั้งศูนย์วิจัย "คารีโซเก" เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2510 ทำการศึกษา พฤติกรรมของกอริลลาเป็นเวลาถึง 18 ปี จนได้ฉายาว่า "สาวน้อยกอริลลา"  ฟอสซีย์ เป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสาม "นางฟ้าของลีกคี" (Leaky's Angels) เป็นฉายาที่ตั้งเลียน แบบรายการโทรทัศน์ "นางฟ้าชาร์ลี" (Charlie's Angels) ที่โด่งดังช่วงปี พ.ศ. 2519-2524 ร่วมกับเจน กูดดอลล์ ซึ่งศึกษาเรื่องชิมแปนซี และบีรูเต กัลดีกัส ซึ่งศึกษา เรื่องอุรังอุตัง กอริลลาตัวโปรดของเธอมีชื่อว่า "ดิจิต" (Digit) มันถูกกลุ่มผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าฆ่าตายในปี พ.ศ. 2520 จากนั้นไดแอน ฟอสซีย์ได้ตั้งกองทุนชื่อ Digit Fund เพื่อปกป้องกอริลลา และตอบโต้กลุ่มนายพรานด้วยความรุนแรง จนกลุ่มผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าถือว่าเธอเป็นศัตรู และลอบทำร้ายหลายครั้ง 

เธอศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และรับงานสอนที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล พร้อมกับเขียนหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ Gorilla in the Mist ในปี พ.ศ. 2523 และมอบสิทธิ์การถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เพื่อนำรายได้สมทบทุน Digit Fund  

ไดแอน ฟอสซีย์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2528 หลังจากกลุ่มผู้ลักลอบค้าสัตว์ ป่าลอบเข้าไปในกระท่อมที่พัก แล้วใช้มีดใหญ่ฟันที่ศีรษะจนเสียชีวิต ศพของเธอถูกฝังไว้ ใกล้กระท่อมที่พัก ใกล้กับหลุมฝังศพดิจิต และกอริลลาตัวอื่นๆ ที่ถูกล่า ภายหลังการเสีย ชีวิตของเธอ กองทุน Digit Fund ได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Dian Fossey Gorilla Fund International (DFGDI)

หลุมศพ  ของไดแอน ที่อยู่เคียงข้ามกับหลุมฝังศพของ ดิจิตกอริลลาที่เธอรัก และกอริลลาตัวอื่นๆกลางป่าที่เงียบสงบ

ขอขอบคุณ คุณsakkra

ที่มา http://www.fwdder.com