ประสบการณ์วัยรุ่นวัยเรียนของหนุ่มตี๋ “มิวสิค” แห่งเอเอฟ4 จะเหมือน หรือแตกต่างจาก “รักจัดหนัก” ในจอเงินอย่างไร มิวสิคพร้อมอัพเดตให้แฟน ๆ “เดลินิวส์แคมปัส” ได้รู้ก่อนใคร
ถูกกล่าวถึงมากในสังคมออนไลน์ขณะนี้ สำหรับ “รักจัดหนัก (LOVE, NOT YET)” ภาพยนตร์ที่จับประเด็น “ความรัก” และ “เซ็กซ์” ในวัยรุ่นมาฉายผ่านแผ่นฟิล์ม หนึ่งในทีมนักแสดงนำคือ “มิวสิค-รัชพล แย้มแสง” ตี๋หนุ่มแห่งเอเอฟ4 ซึ่งประสบการณ์วัยรุ่นวัยเรียนของมิวสิคจะเหมือน หรือแตกต่างจากจอเงินอย่างไร วันนี้ “เดลินิวส์แคมปัส” มาอัพเดทให้รู้ก่อนใคร
มิวสิคในวันวานเป็นเด็กสายวิทย์ฯ ชอบการคำนวณเป็นทุนเดิม แต่ก็สนใจในเทคโนโลยี จึงตั้งใจเลือกเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาซอฟต์แวร์และความรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
“หลังจากเรียนประมาณ 1 ปีแล้วดร็อป กว่าจะกลับมาเรียนต่อค่อนข้างนานพอสมควร อาจต่อติดยากหน่อย แต่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องเรียนให้จบ มิวสิคชอบงานวงการบันเทิง แต่อยากเรียนในสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำหรับตัวเอง สามารถสร้างอนาคตได้หากไม่ได้ทำงานตรงนี้”
มิวสิคเล่าถึงการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยว่า วิศวะเรียนหนัก ซึ่งมิวสิคมองว่าทำงาน และเรียนไปด้วยไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ช่วงแรกมีคิดท้อบ้าง จะรอดไหม (หัวเราะ) แต่เมื่อเราคิดจะทำอะไรสักอย่าง แล้วมีความตั้งใจ มิวสิคคิดว่าต้องสำเร็จ ถ้าไม่ทันตรงไหนเข้าไปคุยกับอาจารย์ ไปตามงาน ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้ จนถึงวันนี้เรียนเทอมสุดท้าย รู้สึกทำได้ รอดแล้ว (หัวเราะ)
การได้โอกาสทำงานขณะอยู่ในวัยเรียน มิวสิคบอกว่า การเรียน และทำงานไปด้วย ถ้าจะบริหารให้ไปด้วยกันทั้งคู่ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้หน้าที่ มิวสิคมองว่าต้องรู้จักตัวเองให้ดี สนใจผลลัพธ์ที่จะเกิด อย่าไปคิดว่าเรียนจบช้าไม่เป็นไร เพราะทำงานแล้ว คือข้ออ้าง แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าผลลัพธ์ในชีวิตจะเป็นอย่างไรตั้งแต่แรก จะช่วยให้เส้นทางเดินจากนั้นชัดเจนขึ้น เป็นแรงผลักดันต้องทำให้ได้
ถามถึงอนาคตด้านการเรียน และการทำงาน มิวสิคเผยว่า ต้องดูในขณะนั้นว่างานเราเป็นอย่างไร มิวสิคอาจเรียนต่อด้านเอ็มบีเอ, ไฟแนนซ์ หรือการเงิน จบแล้วลุยงานที่เรียนมาเลย เป็นลักษณะของการที่เรามีพื้นฐานอะไรทำอยู่อย่างหนึ่ง ควบคู่กับงานในวงการบันเทิงซึ่งอยากทำเพราะความรัก
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในวงการบันเทิงล้วนพัฒนาทั้งบุคลิก และความคิดที่โตขึ้น โดยมิวสิคกล่าวว่า หลังจากทำงาน สิ่งที่มิวสิคได้รับกลับมาหลัก ๆ เลยคือ ทำให้เราเฟรนด์ลี่ขึ้น ได้ฝึกเรื่องบุคลิก รู้จักกระบวนการทำงานกับผู้อื่น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราพัฒนา และโตขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องฝึกทักษะทั้งการร้องเพลง และการแสดงอยู่เรื่อย ๆ เพื่อผลิตผลงานที่มีคุณภาพสู่ผู้ชมทุกท่านที่คอยเป็นกำลังใจ และติดตามครับ”
เป้าหมายเริ่มต้นจากความคิด และมักจบลงด้วยการลงมือทำอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนเชื่อว่าสำเร็จได้ เพราะไม่มีอะไรจะชนะความมุมานะที่มี ดั่งเส้นทางของหนุ่มตี๋ “มิวสิค รัชพล แย้มแสง”.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น