Homebright

Bright

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ:D

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

เลือกนาฬิกาสวยๆ ให้เหมาะกับ "ข้อมือ"

 แฟชั่น


สำหรับคุณสาวๆที่กำลังมองหานาฬกาข้อมือประจำสักเรือน นาฬิกาข้อมือ นอกจากสามารถใช้ดูบอกเวลาแล้วนั้น ยังสามารถใช้เป็นเครื่องประดับ เสริมความโดดเด่นให้กับข้อมือของเราได้อีกด้วยนะคะ ทีนี้เรามาดูกันว่าข้อมือของเราเหมาะที่จะเลือกนาฬิกาแบบใหนดีคะ เผื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อนาฬิกาคะ ^_^ ซื้อทั้งทีก็ให้ดีไปเลยเนอะ

ผู้หญิงข้อมือเล็ก 
นาฬิกาที่ไม่เหมาะ และไม่ควรจะเลือกเลย คือนาฬิกาที่เป็นสายเหล็กหรือสายหนัง เพราะทำให้คุณต้องตัดสายนาฬิกาหลังจากซื้อแล้ว ถ้าลองใส่แล้วหลวมขนาดต้องตัดสายจนหมดระยะบังคับแล้วก็ยังหลวมอยู่มาก ทำให้คุณต้องตัดสายเกินกว่าที่กำหนด สายจะบิดไปด้านใดด้านหนึ่งและไม่อยู่กึ่งกลางของข้อมือ ดังนั้นเวลาใส่จะทำให้ เคลื่อนไหวข้อมือไม่ถนัด และที่สำคัญคือทำให้นาฬิกาแลดูไม่สวย ดังนั้นนาฬิกาที่เหมาะสมสำหรับคนข้อมือเล็กมากที่สุดก็คือ นาฬิกาแบบกำไล  คุณควรเลือกแบบที่พอดี คือไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป เมื่อใส่แล้วควรเลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้สะดวก สำหรับตัวเรือนนั้น สาว ๆ ที่มีข้อมือเล็กควรเลือกนาฬิกาที่มีหน้าปัดแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือแบบวงรี เล็ก เพราะเวลาใส่จะทำให้มีที่เหลือบนข้อมือ ทำให้ข้อมือไม่ดูเล็กเกินไป และที่สำคัญไม่ควรเลือกหน้าปัดแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะขนาดตัวเรือนที่ทั้งยาวและใหญ่จะบังพื้นที่บนข้อมือหมด และทำให้ข้อมือดูเล็กกว่าปกติ ส่วนสีของหน้าปัดนั้นควรเลือกโทนสีขาวหรือสีครีม เพราะ จะช่วยให้ข้อมือดูสว่างขึ้น

นาฬิกาแบบกำไร



ผู้หญิงข้อมือใหญ่ 

การเลือกนาฬิกาสามารถเลือกได้ทุกแบบ ถือเป็นข้อดีของสาวข้อมือใหญ่ทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าปัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะทำให้ข้อมือใหญ่ ๆ ของคุณดูสวยเรียวงามเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าสาวคนไหนเป็นสปอร์ตเกิร์ลละก็  ขอแนะนำให้เลือกใส่ขนาดเดียวกับของหนุ่มๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 มม. เพียงแต่ต้องเลือกแบบให้เหมาะสมกับบุคลิกและการแต่งตัวด้วยเท่านั้น 







ประหลาด ! หลวงพ่อโต "ร้องไห้" อาจเป็นลางบอกเหตุ

 (วันที่ 8 ม.ค.)  มีเหตุการณ์ประหลาดได้เกิดขึ้นกับ  "พระมหาพุทธพิมพ์" หรือ "หลวงพ่อโต" วัดไชโยวรวิหาร  โดยมีคราบคล้ายคราบน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
 หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโต
ที่บริเวณวัดไชโย  โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต  ได้มีนักท่องเที่ยวต่างพากันเข้ามายืนดูบริเวณพระพักตร์ของหลวงพ่อโต  พร้อมถ่ายรูป  บ้างก็นั่งกราบไหว้ขอพร  สำหรับพระพักตร์ของหลวงพ่อโตที่นักท่องเที่ยวต่างจับกลุ่มวิพากษ์กันว่าหลวงพ่อโตร้องไห้  เนื่องจากมีคราบคล้ายคราบน้ำได้ไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง ที่สำคัญคราบน้ำดังกล่าวไหลออกมาจากขอบตาดำเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง และไหลลงมาหยุดอยู่ที่เหนือริมฝีปากทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเชื่อว่าที่  หลวงพ่อโต  ร้องไห้ออกมานั้นอาจจะเกิดอาเพศร้ายแรงกับบ้านเมืองเราก็ได้
 หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโต
นายเสกสม  นักท่องเที่ยวรายหนึ่งเปิดเผยว่า  ในช่วงบ่ายตนเองได้พาครอบครัวมากราบไหว้เพื่อเป็นการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่  แต่พอเข้าไปกราบไหว้  ตนได้สังเกตเห็นที่พระพักตร์ของท่านมีคราบน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างเหมือนกับท่านกำลังร้องไห้   หากเป็นจริงหลวงพ่อโตอาจจะบอกอะไรให้กับประชาชนบางอย่าง หรืออาจจะเกิดลางร้ายกับประเทศไทย
 หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโต
ด้านพระปลัดฟัก อภินันโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร กล่าวว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่น่าแปลกใจ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน  ส่วนตัวแล้วตนคิดว่าอาจจะเป็นคราบมูลของนกก็เป็นไปได้  แต่ที่น่าแปลกคือไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างเท่านั้น 
 หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโต
สำหรับประวัติ พระมหาพุทธพิมพ์ (หลวงพ่อโต) วัดไชโยวรวิหารแห่งวัดไชโย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียงที่ต่างพากันมากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล   พระมหาพุทธพิมพ์ประดิษฐานในวิหารวัดไชโยวรวิหาร  มีพุทธลักษณะ เป็นศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตัก 8 วา 7 นิ้ว ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ด้วยเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม
 วัดเสกไชโย
วัดไชโยวรวิหาร

รัก.....ไม่มีนิยาม (เศร้ามาก)

รักไม่มีนิยาม

‎!!รักแท้มีอยู่จริง!! แต่งงานในงานศพของเจ้าสาว เจ้าบ่าวหัวใจหล่อมาก เท่าที่ไปตามอ่านมา เจ้าสาวถูกรถชน ก่อนปีใหม่ และเพิ่งเสียไปหลังปีใหม่นี่เอง 
แต่คุณ Chadil Deffy (ชื่อใน ฟบ.) เจ้าบ่าวยังทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้องแอน โดยโพสท์ไว้ว่า

*** ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรสของผมและแอน พร้อมกับรดน้ำแอน ในวันท่ี 4 ม.ค.55 ท่ีวัดหลวงปู่สาม จ.สุรินทร์ มากันเยอะนะครับ ***

พอเราเห็นรูปนะ พูดไม่ออกอ่ะ อยากจะร้องไห้
ได้แต่บอกตัวเองว่า ความรักมีอยู่จริงนะ ความรักมีอยู่จริงๆ

ขอให้คุณแอนสู่สุขคติ อยู่ในภพที่ดี ขอให้ได้เกิดมาคู่กันกะคุณเดฟอีก

ปล.ไม่ได้ขออนุญาตคุณเดฟมา ขออภัยคุณเดฟด้วยนะคะ 

ปล.อีกครั้ง ช่วยเข้ามาอ่านกันเยอะๆ ช่วยแชร์ หน่อย สำหรับ คนที่ ชื่นชมใน ตัวคุณ เดฟ ที่ ทำให้คำว่า 
 .รัก.แท้ ไม่มี ข้อจำกัด
มันทำให้เรารู้ว่าจงรักษาคนที่เรารักก่อนที่เวลาจะพรากเค้าไปจากเรา

วุ้นเส้น เมิน หมอดูทัก ยัน ไม่เลื่อนงานแต่ง.

วุ้นเส้น เมิน หมอดูทัก ยัน ไม่เลื่อนงานแต่ง
                 กำลังอยู่ในช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม ซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนวีเจสาวเซ็กซี่ วุ้นเส้น วิริฒิพา ก็จะได้เป็นเจ้าสาวกับเค้าบ้างแล้ว แต่ดั๊นมาเจอหมอดูทักว่าจะต้องมีเหตุให้เลื่อนงานแต่งออกไป ซึ่งเมื่อสอบถามทางสาววุ้นเส้น เธอจึงยันมาว่ายังเป็นเดือนเมษายน เหมือนเดิม ส่วนรายละเอียดทั้งหมดเตรียมควงหนุ่ม ชาคริต ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันนี้แล้วจ้า...

                สาววุ้น ยันไม่เลื่อนงานแต่ง "ไม่ได้เลื่อนค่ะ แต่เดี๋ยวไว้บอกว่าเมื่อไหร่ ใช่วันที่คิดกันไว้หรือปล่าว แต่จริงๆ คิดว่าจะบอกทีเดียวเลยค่ะ (ได้ไปดูเดือนมาหรือยังคะ ว่าเดือนไหน?)เดือนเมษายนค่ะ (ชุดเจ้าสาวเป็นยังไงคะ?)ยังไม่บอกค่ะ แต่ว่าชุดเจ้าบ่าวได้แล้ว ชุดเจ้าสาวของวุ้นเส้นยังตัดอยู่ (หลังปีใหม่มาเตรียมงานอะไรเพิ่มเติมมั๊ย?)คุยกันเรื่อยๆ กับเวดดิ้งเรื่อยๆ แล้วค่ะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง"

               วุ้นเส้นแจงฟังหูไว้หู เพราะ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น "ไม่ค่อยเครียดไรมากเพราะว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันค่ะ แค่เราฟังๆ ไว้ว่าเค้าดูดวงเรามา คือดวงเราเป็นอย่างนี้ก็เป็นอย่างนี้  คนเราถ้าจะเจอคนๆ นึงแบบดวงสมพงษ์กันมันไม่ง่ายค่ะ ถ้าตอนนี้ยังโอเคอยู่ก็ให้กำลังใจกัน ดีกว่าอวยพรให้แตกหักไป"

               วีเจสาวเปรยรายละเอียดงานแต่งทั้งหมดรอฟังจากปากพร้อมแฟนหนุ่ม เร็วๆ นี้ "อยากบอกพร้อมกันค่ะ เดี๋ยววุ้นพูดอย่างเค้าพูดอย่าง ไม่เหมือนกันแล้วจะงง (กำหนดแถลงข่าวงานแต่งวันไหน?)น่าจะอาทิตย์หน้า เพราะคุยกันไว้แล้วว่า เป็นวันดีด้วย ก็น่าจะไปด้วยกัน คือถึงวันนั้นแถลงข่าวก็จะรู้ทุกอย่างค่ะ" 


วุ้นเส้น "หนูจะเป็นเจ้าสาวแล้วค๊า"


วุ้นเส้น-ชาคริต "เมษาเหมื๊อนเดิม"


วุ้นเส้น-ชาคริต "รอฟังข่าวดีอีกไม่กี่วันนะจ๊ะ"


ชาคริต-วุ้นเส้น "ตื่นเต้นจังเลยเนอะที่รัก อิอิ"

ลดพุงง่ายๆด้วย 10 วิธีเริดๆ

      

"อยากมีหน้าท้องแบน ราบเรียบเหมือนนางแบบคนนี้จังเลย" นั่นแน่!! เชื่อแน่ว่าสาวๆหลายคนต้องมีความคิดอย่างนี้แน่ๆ เมื่อเปิด magazine แล้วเห็นนางแบบที่หน้าท้องแบน อย่างกับเธอไม่ได้กินอะไรมาแรมปี แล้วก็เกิดความอิจฉาอยากจะเป็นอย่างพวกเธอบ้าง....คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้เพียงแค่คุณทำตามคำแนะนำกับวิธีง่ายๆในการลดพุงที่เราจัดหามาฝาก...ได้ผลแค่ไหนคุณต้องลองจัดซะ



 1.บอกลาอาหารจังก์ฟู้ดส์ เพราะอาหารจังก์ฟู้ดส์เหล่านี้ มักมีทั้งน้ำตาล และไขมันอิ่มตัวเป็นส่วนประกอบแทบทั้งนั้น


          2.น้ำตาลคือจอมวายร้าย เพราะฉะนั้นเลือกทานอาหารประเภทซูการ์ฟรีซะ มันช่วยทำให้หน้าท้องของคุณลดลงได้


          3.หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งขัดขาว ขนมปังขัดขาว พาสต้า โดนัท เค้ก และบิสกิต เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้คุณอ้วนขึ้น แถมยังส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารด้วย และยังทำให้เกิดไขมันเก็บสะสมในร่างกายอีกต่างหาก


          4.อย่ากินขนมตอนกลางคืน นั่นก็เพราะการรับประทานขนมตอนกลางคืน จะทำให้คุณไม่สามารถเผาผลาญไขมันออกไปได้ เพราะช่วงกลางคืนเราทานแล้วก็นอน แทบไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่เผาผลาญพลังงานอีกแล้วนั่นเอง


          5.เปิดไฟนอน เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การนอนหลับในห้องที่เปิดไฟ จะมีช่วยลดความอยากอาหารได้มากกว่านอนในสภาพบรรยากาศมืด ๆ ซึ่งแน่นอนว่า มันเกี่ยวข้องกับขนาด "พุง" ของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย


          6.ออกกำลังกายลดความอ้วน คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก กำจัดพุง ก็คือ การออกกำลังกายนี่เอง เพราะมันจะช่วยเผาผลาญไขมัน และน้ำหนักให้คุณได้


          7.ดื่มชาเขียว วันละ 3-4 แก้ว เพราะมันจะช่วยให้การออกซิเดชั่นไขมันดีขึ้น เร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกาย แถมยังสามารถลดคอเลสเตอรอลได้อีกต่างหาก


          8.เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวอุ่น ๆ รับรองว่าเวิร์ก


          9.อย่าปล่อยให้หิว เพราะหากยิ่งปล่อยให้หิว ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารจะยิ่งหลั่งออกมา และหากคุณกินตามใจฮอร์โมน น้ำหนักเพิ่มขึ้นแน่นอน


          10.ลดทานเค็ม นั่นก็เพราะการทานอาหารรสเค็มจัดเกินไปเป็นสาเหตุให้ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน และน้ำหนักในเด็กผู้หญิงเปลี่ยนแปลงได้


แสงไฟแบบไหนเหมาะใช้อ่านหนังสือ?(อยากรู้เข้ามาอ่านจ้า)

แสงไฟแบบไหนเหมาะใช้อ่านหนังสือ?
เช็ค “แสงไฟ” ในห้องอ่านหนังสือ เลือกใช้ถูกหลักหรือไม่ พร้อมวิธีแก้ไขควรปฏิบัติ ช่วยถนอม “สายตา” บอกลา “อาการตาเพลีย”
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลังอ่านหนังสือ มักปวดรอบ ๆ ตา และหน้าผาก ตาพร่ามัว ตาลายเป็นพัก ๆ เคือง แสบ หรือ มีน้ำตาไหลร่วมด้วย นั่นเป็นสัญญาณของอาการ “ตาเพลีย” ซึ่งมักเกิดจากการใช้สายตาขณะแหล่งแสงไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อดวงตาคู่สวยทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพไปนาน ๆ การเลือกใช้แสงไฟอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับ “แสงจากธรรมชาติ” ควรเลี่ยงแสงสว่างจ้า เพราะจะทำให้สายตาอ่อนล้า หากมืดเกินไปก็เป็นปัจจัยทำสายตาสั้นได้เช่นกัน จึงควรหาโคมไฟติดไว้ เพื่อช่วยปรับแสงให้พอดีกับสภาพแวดล้อมแต่ละวัน
หากเป็น “แสงจากโคมไฟตั้งโต๊ะ” ควรใช้หลอดที่มีแสงสีนวล เลี่ยงแสงสีขาว หรือ เหลืองเกินไป เพราะจะทำให้แสงแยงตา ทั้งนี้ เพื่อการมองตัวหนังสือได้แจ่มชัด แสงที่ตกสะท้อนจากกระดาษไม่ตกเข้าตา ควรจัดวางตำแหน่งโคมไฟให้แสงเข้าด้านข้างซ้ายมือจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ช่วยให้อ่านได้สบายตา และนานขึ้น ทั้งยัง เป็นการลบเงาที่จะเกิดขึ้นด้วย
นอกจากนั้น ควรเลี่ยงอ่านหนังสือในบริเวณที่เป็น “แสงไฟกระพริบ” เพราะจะส่งผลให้ประสาทตาเสียเร็ว เนื่องจากถูกกระตุ้นตามจังหวะกระพริบของแสงนั่นเอง.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

10 ข้อผิดพลาด เกี่ยวกับการดูแลผิวของสาววัยแรกรุ่น

10 ข้อผิดพลาด เกี่ยวกับการดูแลผิวของสาววัยแรกรุ่น

          ในยุคที่ความสวยยอมกันไม่ได้อย่างทุกวันนี้ ดูเหมือนว่าน้อง ๆ วัยแรกรุ่นจะตื่นตัวกับการดูแลผิวหน้า ผิวกายกันมากขึ้น หลายคนก็เริ่มมองหาครีมบำรุงผิว บางคนก็ถึงกับแต่งหน้าออกจากบ้านเป็นสาวก่อนวัยกันเลยทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่สาววัยแรกรุ่นลืมตระหนักถึง ก็คือการดูแลผิวอย่างไรให้ถูกต้อง ทำให้น้อง ๆ หลายคนปรนนิบัติผิวกันแบบผิด ๆ ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณได้ในอนาคต กระปุกดอทคอมวันนี้ก็เลยขอรวบรวมข้อผิดพลาดที่สาววัยแรกรุ่นมักจะทำไปโดยไม่รู้ตัวมาฝากกัน ก่อนที่จะไม่ทันการณ์ ทำผิวเสียไปด้วยความไม่รู้ค่ะ อ๊ะ ว่าแล้วก็อย่าช้า ไปดูกันดีกว่าว่าข้อผิดพลาดนั้นมีอะไรกันบ้าง
          1. น้อง ๆ วัยเริ่มสาวหลายคนไม่รู้สภาพผิวของตัวเองว่าเป็นผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง ก็มักจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามคุณแม่หรือเพื่อน ๆ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผิวเอาได้ค่ะ ดังนั้น ก่อนอื่นเลยสาว ๆ ก็ควรจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพผิวของตัวเองเสียก่อน จากนั้นก็ค่อยลองเลือกหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาใช้ โดยปรึกษากับเจ้าหน้าที่หรือเภสัชกรก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นค่ะ
          2. น้อง ๆ หลายคนเชื่อว่าการทำความสะอาดใบหน้า แค่สบู่ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งนี่เป็นความเชื่อที่ผิดถนัดเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะคุ้นชินกับการใช้สบู่มาตั้งแต่เด็กก็เถอะ ตอนนี้เป็นสาวแล้วนะคะ ใบหน้าก็เจอกับแสงแดดและลมมากขึ้นทุกวัน แถมน้อง ๆ บางคนยังแต่งหน้าด้วย ดังนั้นต้องพิถีพิถันกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าด้วยค่ะ แล้วเก็บสบู่ไว้ใช้กับร่างกายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นล่ะก็หน้าแห้งตายเลย และนอกจากนี้ยังอาจทำให้ใบหน้าไม่สะอาดก็ได้
          3. ล้างหน้าด้วยโฟมรอบเดียวก็เพียงพอแล้ว นี่อาจจะดีสำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้า แต่ถ้าหากต้องแต่งหน้าอ่อน ๆ ออกจากบ้านตามประสาวัยใส อย่าละเลยคลีนเซอร์ล้างเครื่องสำอางค่ะ เพราะจะช่วยทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจดได้ โดยล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ก่อน จากนั้นค่อยล้างอีกครั้งด้วยโฟมล้างหน้าค่ะ
          4. ทาแป้งทั้ง ๆ ที่เป็นคนผิวแห้งสุด ๆ อ๊ะ ๆ อย่าได้เผลอทำเลยนะแบบนี้ ถ้าหากว่าไม่มีการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ลงไปก่อน เพราะการทาแป้งบนใบหน้าที่แห้งจะยิ่งทำให้หน้าแห้งมากขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาวไม่ต้องพูดถึง ผิวแตกกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้น น้อง ๆ ควรหามอยซ์เจอไรเซอร์หรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นทาลงไปก่อน จากนั้นจะทาแป้งขนาดไหนก็จัดไปเลย
          5. ไม่ใส่ใจที่จะทาครีมกันแดด สาวหลายคนมักจะคิดว่ายังไม่ถึงวัยที่จะต้องพิถีพิถันกับผิวหน้าตัวเองถึงกับกลัวแสงแดดตลอดเวลาอยู่อย่างนั้น แต่การเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถป้องกันปัญหาผิวหน้าหลาย ๆ อย่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น กระ ฝ้า หรือจุดด่างดำต่าง ๆ ดังนั้น เริ่มใช้ครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้งเลยนับตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่ามีกระมีฝ้าแล้วมาหายาทาเอาทีหลัง บางทีก็ไม่ทันนะคะ
          6. นิยมของถูก การซื้อของใช้ราคาประหยัดนั้นเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่ขอยกเว้นให้กับเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่น หรือลิปสติกและเมคอัพบนใบหน้าเลยทีเดียว ขอให้เน้นคุณภาพเป็นอย่างแรกเลยค่ะ ศึกษาให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ กะใช้ของถูกแล้วถ้าหน้าพังขึ้นมาไม่คุ้มกันนะเออ
          7. เน้นบำรุงผิวหน้า ละเลยคอ ฮั่นแน่ พูดไปก็เข้าตัวน้อง ๆ หลายคนเลยทีเดียว ประเภทเน้นบำรุงเฉพาะผิวหน้าให้ใสเด้ง แต่ปล่อยลำคอให้เป็นคนละโทนสี และไม่มีความชุ่มชื้นเอาซะเลยแบบนี้ มาเริ่มต้นบำรุงทั้งใบหน้าทั้งคอไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับส่วนลำคอนี้อาจจะเป็นตัวเดียวกับที่ใช้กับผิวหน้าก็ได้ หรืออาจเป็นโลชั่นบำรุงผิวก็ดีค่ะ
          8. ใช้ครีมป้องกันและลดเลือนริ้วรอยแต่เนิ่น ๆ เข้าใจว่าผู้หญิงเราไม่ว่าจะวัยไหนก็ย่อมกลัวแก่ด้วยกันทั้งนั้น แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปตั้งแต่ยังวัยรุ่นเลยค่ะ มันยังไม่ปรากฎบนใบหน้าได้ง่าย ๆ หรอก ในช่วงวัยนี้ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการลดเลือนริ้วรอยเลยค่ะ ไม่จำเป็นเลย ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นจะดีที่สุด เพราะถ้าหากผิวหน้าเรามีความชุ่มชื้น ก็จะแก่ยาก ริ้วรอยเกิดยากค่ะ
          9. ชอบกินฟาสต์ฟู้ด สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ น้อง ๆ คนไหนที่เผลอทำพฤติกรรมที่ว่ามานี้ไป เตรียมตัวแก่ก่อนวัยได้เลยจ้า เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นปัจจัยทำลายความเต่งตึงของผิวตัวดีเลยล่ะ ดังนั้นใครกำลังเผลอพลาดไปแล้ว หรือคิดจะสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ลองคิดใหม่ก็ดีนะจ๊ะ
          10. ชอบนอนดึก ไม่ว่าจะเพราะมัวแต่แชท หรือเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่ก็เถอะ รู้หรือไม่ว่าการไม่ยอมนอนแล้วเอาเวลามานั่งแฮปปี้มีความสุขทำอะไรเรื่อยเปื่อยไปตอนดึก ๆ ไม่สามารถทดแทนการนอนหลับพักผ่อนได้เลยค่ะ เพราะถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่ง่วงอย่างไร แต่ก็ควรนอนแต่หัวค่ำและนอนหลับให้เพียงพอนะคะ เพื่อที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนฟื้นฟูตัวเองเต็มที่ ไม่เกิดปัญหาผิวหน้าได้อย่างง่าย ๆ แน่นอน
          และนี่ก็คือข้อผิดพลาดทั้ง 10 ข้อ ที่สาววัยแรกรุ่นมักจะพลาดกัน ก็เลยทำให้เกิดปัญหาผิวบ้างล่ะ หรือไม่พอใจกับสภาพผิวตัวเองบ้างล่ะ เอ้า ก็หวังว่าคราวนี้คงจะทำให้น้อง ๆ หลายคนได้เข้าใจเรื่องราวของการดูแลผิวกันมากขึ้น และดูแลผิวกันอย่างถูกต้องนะคะ