Homebright

Bright

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ:D

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

4 เคล็ดลับความงามแบบประหยัด ( ไม่ซ้ำอันเก่าจ้า )



ใช้แชมพูเด็กล้างเครื่องสำอาง
เบบี้แชมพูแบบสูตร No More Tear คือทางเลือกใหม่แบบประหยัดเงินกว่าในการล้างเครื่องสำอางรอบดวงตา เพราะมีความอ่อนโยนพอที่จะใช้กับผิวรอบดวงตาได้ แถมถ้าซื้อขาดใหญ่มาใช้ก็จะยิ่งประหยัดเงินได้แบบทวีคูณ
เจือจางครีมรองพื้น
ครีมรองพื้นโดยทั่วไป มักมีเนื้อครีมเข้มข้น เพื่อช่วยปกปิดริ้วรอย และข้อบกพร่องต่าง ๆ แต่ถ้าคุณอยากประหยัดเงินและทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ก็ผสมกับมอยสเจอไรเซอร์ก่อนทา
สระผมวันเว้นวัน
ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดแชมพูเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะการสระผมมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็น ๆ แบบนี้ อาจทำให้เส้นผมแห้งได้
ล้างผมด้วยน้ำส้มสายชู
ฃคุณสามารถประหยัดเงินค่าแชมพูชนิดที่ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ได้ด้วยการใช้น้ำส้มสายชู แอปเปิ้ล (Apple Cider มีจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป) มาล้างเส้นผมเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสารตกค้างออกไป นอกจากนี้ ยังทำให้เส้นผมดูเป็นเงางามขึ้นด้วย

4 เคล็ดลับ สวยแบบประหยัด สวยด้วยผลไม้


ผลไม้ใกล้ตัว เอามาทำเป็นเครื่องบำรุงผิวให้สวย ลองดูนะคะ
ผลไม้มาร์คหน้า การนำผลไม้ที่รับประทานเป็นประจำมามาร์คหน้า คือการประหยัดและยังช่วยในการดูแลผิวแบบธรรมชาติ ผลไม้หลาย ๆ ประเภท จะมีสารสกัดที่ดีต่อผิว เช่น ผลไม้ไม้เปรี้ยว ๆ อย่าง สับปะรด, มะม่วงสุก, มะเฟือง, ส้ม ฯลฯ ที่มีกรดผลไม้ที่ดีต่อการทำให้ผิวขาวใส เรียบเนียน ขอแนะนำว่าควรผสมอย่างอื่นเพื่อลดความเป็นกรดลงด้วย เช่น โยเกิร์ตหรือน้ำผึ้ง 
สครับริมฝีปากริมฝีปากที่นุ่ม ชุ่มชื่นทำให้ดูดีขึ้น วิธีประหยัด คือ การนำกระวานป่น 1 ช้อนชา มาขัดริมฝีปากหลังล้างหน้า ถึงแม้จะมีรสเผ็ด แต่ได้ผลดีต่อริมฝีปาก จากนั้นล้างออกแล้วบำรุงด้วยลิปบาล์มอีกครั้ง 
อบไอน้ำสมุนไพรอบไอน้ำแบบประหยัด คือ นำใบมะกรูด ข่า ขิง มะนาว มาต้มในหม้อให้พออุ่น จากนั้นวางพักในจุดที่พอก้มหน้าให้ไอร้อนสัมผัสผิวได้อ่อน ๆ หรืออาจนำผ้ามาคลุมศีรษะและหม้อน้ำให้ไอน้ำไม่ระเหยเร็วก็ได้ ความร้อนและสมุนไพร จะช่วยเปิดรูขุมขนและดีท็อกซ์ให้ผิวหน้าให้สะอาดสดใส จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับผิวอีกรอบ 
ผลไม้เพื่อผมสวย ลองนำ กล้วยน้ำว้า แตงโม น้ำส้ม และน้ำมะกรูด มาบดผสมรวมกัน แล้วนำมาหมักเส้นผมทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก จะทำให้เส้นผมมีได้กลิ่นหอม ๆ จากผลไม้แล้ว ยังทำให้เส้นผมได้รับคุณค่าบำรุงใหม่ ๆ อีกด้วย

ทายใจนิสัยรักของหนุ่ม 12 ราศี


ราศีเมษ
ชาวราศีเมษเป็นคนที่เร่าร้อน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า บุคลิกไม่อยู่นิ่งแต่เป็นคนที่โรแมนติกอย่างเหลือร้ายสามารถจุดไฟในหัวใจของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว ในเรื่องของเซ็กซ์จึงเป็นหนุ่มที่เร่าร้อนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า และต้องการที่จะระบายออก แต่ก็เป็นคนที่ตัดเยื่อใยสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็วและสามารถสื่อความต้องการจนฝ่ายหญิงตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน 

ราศีพฤษภ
หนุ่มราศีนี้มีอารมณ์ที่แข็งแกร่ง ค่อนข้างชอบอะไรที่เป็นพิธีการและเป็นคนที่ขี้หึงอย่างไร้ขอบเขตนั่นเอง แต่จะเป็นคนที่มักจะตกหลุมรักใครได้ง่ายเช่นกันเพราะมักจะหลงใหลกับใบหน้าที่สวยของเพศตรงข้ามเสมอ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าหนุ่มราศีพฤษกนี้มักจะเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกก่อนทั้งๆ ที่เป็นคนรักเดียวใจเดียว การที่ได้ร่วมรักกับใครซักคนทำให้เกิดอาการเพ้อละเมอพกและคิดถึงการร่วมหัวจมท้ายมากกว่าที่จะคบแบบเล่นๆ 

ราศีเมถุน
เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม รักงานปาร์ตี้และความสนุก เป็นคนที่ขาดเพื่อน หรือคนรักไม่ได้ เพราะการอยู่คนเดียวจะทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าถูกทอดทิ้ง ดูภายนอกเหมือนคนขี้โวยวายแต่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในตัว คู่รักของเขาจะต้องเป็นคนที่ชอบความตื่นเต้น และชอบกุ๊กกิ๊กกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในหัวใจ เรื่องเซ็กซ์จึงเป็นเรื่องที่ผ่านมาและก็ผ่านเลยไปสำหรับเขา 

ราศีกรกฎ
ชาวราศีนี้เป็นคนลึกลับ คนรอบข้างไม่อาจเดาได้เลยว่าเขาหรือเธอกำลังคิดหรือจะทำอะไร นิสัยที่ขี้หงุดหงิดง่ายมักแสดงออกทางอ้อม แต่ในเรื่องของความรักกลับขี้อายและไม่ค่อยกล้า ในเรื่องเซ็กซ์จึงไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองและคนรักเท่าใดนัก เพราะเป็นคนที่ทุ่มเทในความรักมากเกินไป แต่สิ่งที่หนุ่มชาวราศีนี้ต้องการคือ การได้อยู่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากกว่าที่จะคบกันอย่างผิวเผินเพราะยึดมั่นในรักนั่นเอง

ราศีสิงห์
มีความโรแมนติกอยู่ในตัวใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก เรียกได้ว่ามีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามอย่างมาก หากเจอใครถูกใจก็อยากจะขอเบอร์ไว้เป็นกิ๊กในดวงใจไปซะทุกราย เพื่อความกระชุ่มกระชวยของหัวใจ ซึ่งมักจะเลือกคบฝ่าหญิงที่มีความเหมาะสมกับตัวเองในทุกๆเรื่อง แต่ก็มักจะเกิดอาการเบื่อง่ายเพราะการคบกันของเขานั้นชอบมองจากภายนอกรูปร่างหน้าตา มากกว่า เรื่องเซ็กซ์จึงเป็นประเด็นหลักที่ต้องเลือกมาเป็นคู่นอนแต่ไม่ใช่คู่ชีวิต... 

ราศีกันย์
เป็นหนุ่มขี้อายและอ่อนไหว มักจะชอบฝ่ายหญิงที่มองแล้วเกิดความรู้สึกอบอุ่นทั้งภายในและภายนอก เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวและจินตนาการสูง เป็นคนบ้างานและปล่อยความคิดออกมาอย่างอิสระ แต่เป็นหนุ่มที่ไม่ชอบความโรแมนติกเอาซะเลย กลับชอบพูดคุยกับเพศตรงข้ามอย่างถึงพริกถึงขิง เพราะจะไม่ทำให้เกิดความน่าเบื่อ ที่สำคัญเป็นคนขี้หึงอย่างมาก แต่จะชินชากับการมีเซ็กซ์อย่างรวบรัด เพราะนั่นคือสิ่งที่ผ่านเข้ามาและก็ผ่านเลยไป 

ราศีตุลย์
เป็นคนที่มีเสน่ห์จากภาพลักษณ์ภายนอกที่สมบูรณ์แบและถ่ายทอดออกมาหลากหลายอารมณ์ เป็นคนช่างคิดและมักแสดงออกทางสีหน้าเสมอ หนุ่มราศีนี้มีความรักให้ฝ่ายตรงข้ามน้อยๆ แต่รักนานๆ การได้ตกหลุมรักฝ่ายตรงข้ามบ่อยๆ กลับทำให้ชีวิตเขาเกิดอาการกระชุ่มกระชวย เขาชอบเสียงดนตรี แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจก็คือ ความเชื่องช้าที่ชาวราศีนี้มักจะทำตัวเป็นเต่า และมีความสับสนทางอารมณ์อยู่เสมอ เรื่องเซ็กซ์นั้นถึงจะช้าแต่ก็ชัวร์ 

ราศีพิจิก
เป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีได้ดี เพราะว่ามักจะแปรปรวนไปตามสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น มีบุคลิกที่น่าซับซ้อนและแฝงไปด้วยอันตรายและความน่ากลัว เพราะว่าเป็นคนที่ชอบวางแผนและคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำการลงไป ซึ่งจะไม่เปิดเผยจนกว่าแผนการจะสำเร็จ โดยเฉพาะเพศตรงข้ามที่เขามักจะได้พบเจอและปิ๊งปั๊งกันก่อนที่จะจบลงกันบนเตียง ข้อเสียคือเป็นคนขี้หึงและชอบแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป 

ราศีธนู
เป็นนักผจญภัยแบบคลาสสิค รักอิสระ และความสนุก มีเสน่ห์แบบเด็กๆ เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่งทำให้คนรอบข้างอาจเกิดอาการเบื่อหรือคล้อยตามไปด้วย ที่สำคัญหากเขาสัญญาอะไรก็อย่าได้ถือเป็นเรื่องจริงจัง เพราะว่าหนุ่มราศีนี้เป็นคนที่ขี้ลืม จึงกลายเป็นสัญญาปากเปล่าเท่านั้น เขามักจะคิดว่าความรักก็เปรียบเหมือนการเล่นกีฬาและไม่ชอบการมีเซ็กซ์แบบผูกมัดจึงมัดจะยึดคติประจำใจว่า “รักแล้วทิ้ง ชิ่งเมื่อมีปัญหา” 

ราศีมังกร
เป็นหนุ่มที่จริงจังมากกับทุกเรื่องของชีวิต แม้กระทั่งเรื่องเฮฮาปาร์ตี้ แต่กลับเอามาคิดเป็นเรื่องจริงจังเกินไป ชาวมังกรเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมาย สาวในสเป๊กก็คือหญิงผู้สง่างาม ประเภทม้าดีดกะโหลกน่ะเหรอหลบไปเลย และชอบผู้หญิงที่จะมาเป็นช้างเท้าหลังและแม่ของลูกได้เป็นอย่างดี ข้อดีคือเขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งและสาวๆสามารถพึ่งพาหากมีเซ็กซ์กับสาวคนไหนเขาจะต้องอ้าแขนแสดงถึงความรับผิดชอบทันที 

ราศีกุมภ์
เป็นหนุ่มที่ให้ความสำคัญต่อทุกสิ่งเป็นคนไม่หยุดนิ่ง และไม่ชอบการผูกมัด เป็นคนรักอิสระในความคิด แต่ทุกครั้งที่มีการหยุดพักเขามักจะหาความเป็นอิสระและโดดเดี่ยวเพื่อหามุมสงบ ในเรื่องของความรักเขารู้ตัวดีว่า ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนนั้นมีความเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากกว่าคำว่าแฟน และไม่ชอบมีเซ็กซ์กับสาวคนไหนจนกว่าจะเกิดความแน่ใจ ซึ่งบางครั้งสาวๆเองก็ชอบความสัมพันธ์แบบนี้มากกว่าที่จะมีเซ็กซ์เพื่อการผูกมัด 

ราศีมีน
เขาเป็นนักฝันที่ยิ่งใหญ่และมีศิลปะในหัวใจอย่างงดงาม แต่มีหลายครั้งที่เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าต้องการอะไร ในเรื่องของความรักแม้ว่าเขาจะตกหลุมรักสาวหน้าตาแฉล้มได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็สามารถตัดใจได้อย่างรวดเร็วเหมือนกันหากสาวเจ้าไม่สน และสาวๆที่เขาอยากมีกิ๊กด้วยก็คือความน่ารักและเสน่ห์เย้ายวน หากตาต้องตา ใจต้องใจ คิดดูว่าอะไรมันจะเกิด.. ต้องขอเตือนว่าสาวๆ ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะไม่งั้นเป็นแม่สายบัวรอเก้อแน่..ประมาณว่า “พี่ไม่ต้อง น้องลงมือเอง”

ทายนิสัย จากขนาดศีรษะของคุณ


ลักษณะและขนาดของ ศีรษะ ของ คนเรานั้นสามารถบอกถึงนิสัยใจคอของผู้นั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะศรีษะเล็ก หรือ ขนาดใดๆก็ตาม สามารถบอกได้หมดเลยค่ะ อยากรู้แล้วล่ะสิว่าดูกันแบบไหนมาติดตามกันเลยดีกว่า..
 emotion  1. ศีรษะใหญ่
ถ้าใหญ่กว่ามาตรฐานจะเป็นคนฉลาด มีเหตุผล มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงและจะประสบความสำเร็จในชีวิต

emotion  2. ศีรษะใหญ่มาก
กรณี ที่ใหญ่มากขนาดเรียกว่า “หัวโต” ได้โดยไม่ตะขิดตะขวงจะเป็นคนดื้อรั้นและไม่ค่อยยืนหยุ่นบางครั้ง เป็นผลจากต่อมในร่างกายบางอย่างผิดปกติ

emotion  3. ศีรษะเล็ก 
เป็นคนที่มีสัญชาตญาณระวัง เตรียมตัวล่วงหน้าได้ดี อารมณ์ขึ้นลงง่ายไร้ความคิด หุนหันพลันแล่น
emotion  4. ศีรษะเล็กมาก
เป็นลักษณะของคนเฉื่อยชา อ่อนแอและถูกชักจูงได้ง่าย เหมือนขาดการพัฒนาถึงขีดสุด ทั้งที่บางคนเป็น คนฉลาด แต่ขาดพลังในตัว

emotion  5. ศีรษะกว้างมากระหว่างสองหู
เป็นคนคล่องแคล่ว มีหัวทางธุรกิจ ไม่ค่อยสนใจขัดเกลาจิตใจเท่าไร

emotion  6. ศีรษะกว้างและเป็นโหนก
ถ้าด้านหน้า และส่วนบนของศีรษะดูกว้างเป็นลักษณะของคนที่ชอบศึกษาอาหารทางใจ พวกนี้จะอยู่ในโลกแห่งความฝัน บางครั้งสับสนระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการ

emotion  7. คนที่มีลักษณะหัวแหลม
คนที่มีศีรษะกว้างมาก หากวัดจากส่วนบนใบหูทั้ง 2 ข้างเป็นหลัก คือ วัดจากหูด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งแล้วยาวมากกว่า 16 ซม. และศีรษะส่วนบนแคบมากจนแหลม คนที่มีลักษณะเช่นนี้จะเป็นคนกระด้าง ชอบใช้อำนาจคิดจะเป็นคนขี้อิจฉาหวงของโลภมากและเป็นคนประเภทวัตถุนิยม

emotion  8. ศีรษะรูปไข่
หากศีรษะมีลักษณะยาวรีกลมคล้ายรูปไข่ จะเป็นคนฟุ้งซ่านสนใจเรื่องศาสนา และทุ่มเทเพื่ออุดมคติ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้เกิดศัพท์แสลงว่า “Egg head” ขึ้น

emotion  9. ศีรษะโหนกมาก
ลักษณะเช่นนี้ เป็นลักษณะของคนที่ปล่อยให้จิตใจเป็นใหญ่ แต่ถ้าต้นคอก็โหนกนูนด้วย แสดงว่าเป็นคนมาก ในกามเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา

emotion  10. รูปศีรษะปกติหมายถึง ศีรษะขนาดธรรมดา ได้สัดส่วนกับร่างกาย และส่วนบนสุดของศีรษะจะกว้างกว่าเล็กน้อย เป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความสมดุลในจิตใจและร่างกาย

emotion  11. ศีรษะด้านหน้ากว้างด้านหลังแบน
มีความกว้างและความยาวกว้างเกือบเท่ากัน คนที่มีลักษณะแบบนี้จะเป็นคนที่มีกำลัง มีเสน่ห์ปรับตัวเข้ากับหมู่คณะได้ดี ของสังคม

emotion  12. ศีรษะด้านบนแบน
ถ้าพบคนที่มีลักษณะศีรษะด้านบนแบนจะเป็นคนมองอะไรผิวเผินมาก พูดจากขวานผ่าซาก สามารถ ถากถาง คนได้เจ็บแสบ

emotion  13. ศีรษะด้านหลังโหนกมาก
ลักษณะแบบนี้ มักจะพบกับคนที่มีนิสัยยึดมั่น เชื่อมั่นเปลี่ยนความเชื่อยาก

emotion  14. ศีรษะบริเวณท้ายทอยมีลักษณะลาดต่ำ
ถ้าศีรษะด้านหลังบริเวณท้ายทอยมีลักษณะนูนโหนก เป็นลักษณะของคนที่สามารถจะฝ่าฝันอุปสรรคชีวิตได้ดี มีนิสัยชอบประนีประนอมถ่อมตนเพื่อความสงบ

ครบทั้ง 14 แบบแล้วลองสังเกตุตัวเองและคนรอบข้างดูบ้างแล้วหรือยังจะได้ทราบว่าคุณหรือเค้าแท้จริงเป็นอย่างไร ???

7 วิธีทำให้รักกันมากขึ้น


วิธีปฏิบัติตัวแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองและจะนำไปสู่ความเข้าใจซึ่งกันและกันเริ่มจาก "คุณต้อง" ..
 
1.คุณต้องเรียนรู้เรื่องของอาหาร อาหารชนิดใด รสชาติแบบใดจะถูกใจเขา ผู้ชายบางคนไม่พิถีพิถันมากนักรับประทานอาหารแบบใดก็ได้ แต่รสชาตินี่ซิถ้าถูกปากแล้วล่ะก็ เป็นต้องอ้อนให้คุณทำอาหารให้รับประทานทุกมื้อแน่ คุณควรฝึกปรือเสน่ห์ปลายจวักไว้เปลี่ยนเมนูบ่อยๆ นะคะ 
2.คุณต้องไม่ปล่อยตัวเกินไป รักษาสุขภาพของร่างกายไว้เสมอ แต่งเสริมเติมสวยด้วยความเหมาะสม ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมักจะมองข้ามความสำคัญตรงนี้ โดยคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้สะดุดตาใคร เป็นความคิดที่ผิด ลองดูนะคะ แต่งหน้านิด ปัดแก้มหน่อย ทาปากเล็กน้อย เติมน้ำหอมอีกสักนิด 
3.ไม่ทำตัวเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น หรือใช้คำพูดในเชิงบังคับให้เขาทำตามใจคุณ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่จู้จี้ หรือประกบติดเขาตลอดเวลา เขาจะรู้สึกเหมือนนักโทษ ควรให้โอกาสเขาได้อยู่เงียบๆ คนเดียวบ้าง 
4.คุณต้องไม่จ้องจับผิด เพราะการถูกจ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบ และจะรู้สึกว่าถูกบีบคั้น ปิดกั้นเสรีภาพ ไม่ให้เกียรติกัน ข้อเท็จจริงอีกอย่างที่คุณควรรู้คือ ผู้ชายที่กลัวภรรยามักจะโกหกเก่ง เพื่อเอาตัวรอดจากการถูกจ้องจับผิด 
5.คุณต้องรู้จักให้อภัย เมื่อเขารู้ตัวว่าทำผิดและสารภาพกับคุณ คุณควรให้อภัยเขาและไม่ควรนำเรื่องนี้มาตอกย้ำในภายหลัง เพราะจะทำให้เขารู้สึกติดลบในตัวคุณ 
6.คุณต้องโปร่งใส ไม่ควรโกหกกับเขาในทุกๆ เรื่องเพราะการโกหกแล้วเขาจับคุณได้ เขาจะมีความรู้สึกว่าถูกหลอก และระแวงขาดความไว้วางใจในตัวคุณ 
7.คุณต้องเป็นคนเริ่ม ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เขาเป็นคนเริ่มใช่หรือไม่ ถ้าใช่คุณลองเปลี่ยนมาเป็นคนเริ่มดูบ้างซิ แล้วคุณจะรู้ว่าเขาหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน 
ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะ ที่คุณจะเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ เพราะคนสองคนใช้ชีวิตร่วมกันย่อมมีความไม่เข้าใจกันบ้าง แต่อย่าให้ความไม่เข้าใจกันมาทำลายชีวิตคู่ที่คุณสองคนสร้างมา เพราะความสุขทางกายหาเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ความสุขทางใจนี่สิหายากยิ่งกว่า
ปรับใช้ให้เข้ากับวัย และโอกาสที่เหมาะสมกับตัวเองนะคะ

ข้อคิดเตือนใจ สำหรับใครหลายคนที่มี “รัก”


คุณความรักนั้น มันก็เหมือนกับ "ผีเสื้อ"
ยิ่งวิ่งเข้าหามันเท่าไหร่ มันก็จะห่างคุณออกไปเท่านั้น
แต่ถ้าคุณปล่อยมันไป มันจะเข้ามาหาคุณเองแหล่ะ
. . . ถ้าคุณไม่คาดหวังกับมันมาก
ความรักสามารถทำให้คุณมีความสุข แต่มักจะทำให้คุณเจ็บปวด
แต่ความรักจะเป็นสิ่งที่พิเศษ ถ้าคุณได้ให้มันกับใครสักคนที่คู่ควร 
 
สำหรับ ใครที่ "ไม่ใคร่โสด"
เค้าบอกว่า...
ความรักไม่ใช่ การเป็นคนดีพร้อม สมบูรณ์ ของใคร
แต่รักคือการหาใครสักคนที่ช่วยให้คุณเป็นคนดีที่สุดเท่าที่คุณดีได้

สำหรับ ใครที่เป็น "คนเจ้าชู้"
อย่าพูดคำว่า "รัก" เลย ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจกับความหมายนั้น
อย่าพูดถึงความรู้สึก ถ้ายังไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเค้าเลย ถ้าคุณจะทำให้เค้าเสียใจ
อย่าไปมองลึกถึงดวงตา ถ้าทุกคำพูดของคุณล้วนโกหกทั้งเพ

สำหรับ ใครที่ "อกหัก"
การอกหัก มันยืนยาวตราบเท่าที่คุณต้องการให้มันอยู่กับคุณ
และบาดความรู้สึกคุณได้เจ็บลึกเท่าที่คุณยอมให้บาด
ที่สำคัญก็คือว่ามันไม่ใช่จะพ้นจากสภาวะอกหักได้
แต่มันอยู่ที่ว่า. .. เราเรียนรู้จากมัน ได้แค่ไหน ต่างหาก . . .

สำหรับ ใคร ๆ ที่ "ไร้เดียงสาในรัก"
จะรักได้อย่างไร
รักแต่อย่าลุ่มหลง คงเส้นคงวาแต่ไม่ดื้อรั้น
แบ่งปัน และ ไม่เอาเปรียบพยายามเข้าใจกันและกัน มากกว่าที่จะเรียกร้องหากต้องเจ็บ ก็เจ็บ แต่อย่าเอาความเจ็บนั้น ติดตัวเสมอไป

สำหรับ ใครที่ "มีคนหลงรักอยู่"
เค้าบอกว่า . . .
มันเจ็บปวดที่เห็นคนที่เรารัก มีความสุขกับคนอื่น
แต่มันจะเจ็บปวดยิ่งกว่าถ้าคนที่เรารัก ไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับเรา

สำหรับ ใครที่ "กลัวต่อการสารภาพรัก"
ความรักมันเจ็บปวด ถ้าคุณต้องไปบอกเลิกกับใครสักคน
แต่มันจะเจ็บยิ่งกว่า ถ้ามีคนมาบอกเลิกกับคุณ
แต่มันจะเจ็บที่สุด หากคนที่คุณรัก ไม่เคยได้รู้เลยว่า "คุณรักเค้า"

สำหรับ ใคร ๆ ที่ยัง "คบๆ กันอยู่"
เค้าบอกว่า . . .
สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต ก็คือ การที่เราพบ และ รักใครสักคน
จนสุดท้าย พบว่ามันไม่ใช่
และคุณเสียเวลาไปเป็นปีๆ ให้กับคนที่คนที่ไม่คู่ควร
ถ้าเค้าคนนั้นของคุณ ไม่ใช่คนที่ใช่เลยของคุณตอนนี้ แล้วล่ะก็
จะมาเสียเวลา เป็นปีๆ กับเค้าทำไม ปล่อยไปเถิด . . 

5 ตุ๊กตา ยอดฮิตระดับโลก


ลองดูกันนะว่าสุดยอด 5 ตุ๊กตาที่เราเลือกมามีอะไรบ้าง
BLYTHE, BARBIE, KITTY,TEDDY BEAR, DOLLS, ตุ๊กตา

1. Barbie

กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1959 ในงานอเมริกันทอย แฟร์ หลังจากมีการก่อตั้งบริษัท แมตเทล ในปี 1944 โดยเอลเลียด แฮนด์เลอร์ และ ฮาโรลด์ แมคสัน ซึ่งภายหลังแมคสันขายเลอร์หุ้นส่วนหนึ่งของตัวเองให้แฮนด์เลอร์ ทำให้แฮนด์เลอร์กับภรรยาของเขาเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว ในงานของเล่นที่นิวยอร์ก เมื่อปี 1959 แมตเทลจึงออกผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "บาร์บี้" เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตุ๊กตานางแบบวัยรุ่นที่สวมชุดว่ายน้ำลายขาวดำ พร้อมกับแว่นกันแดดสุดเปรี้ยว รองเท้าส้นสูง ตุ้มหูห่วงสีทอง และผมหางม้าสูง 29 เซนติเมตร หนัก 11 ออนซ์ โดยชื่อบาร์บี้นั้นมาจากชื่อลูกสาวของแฮนด์เลอร์

ต่อมาตุ๊กตาบาร์บี้ได้รับความนิยมอย่างสูง จึงทำให้มีสร้างเป็นเรื่องราวออกมาว่าบาร์บี้เกิดที่ เมืองวิลโลว์ ที่วิสคอนชิน มีชื่อจริงว่า บาร์นี้ มิลลิเซ็นต์ โรเบิร์ดส์ เป็นบุตรสาวของ มาการ์เร็ด โรเบิร์ดส์ กับ โรเบิร์ด โรเบิร์ดส์ โดยมีน้องสาว ชื่อว่า สกิปเปอร์ ทูตติสเคซี และเคลลี พร้อมเพื่อนสนิทอย่างมิดจ์ บาร์บี้ได้เข้าเรียนในระดับไฮสคูลที่โรงเรียนวิลโลว์ ในเมืองวิลโลว์ รัฐวิสคอนชิน และเริ่มออกเดทกับเคนในปี 1961 ทั้งสองเป็นคู่รักที่สวีทกันมาตลอดว่า 40 ปี แต่แล้วความเปลี่ยนแปลงก็มาถึง กระแสของการแสวงหารักใหม่เข้ามามีบทบาทเหมือนคนจริงๆ เพราะสาวบาร์บี้แอบมีกิ๊กจนเลิกกับเคนในปี 2005 หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตสาวโสดอย่างสนุกสนามตามเทรนด์แฟชั่นที่เข้ามาในแต่ละปี

การผลิตเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาบาร์บี้นั้นมีแบบต่างๆ ให้เลือกมากกว่า 500 แบบ จำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ มียอดจำหน่ายมากกว่า 1 พันล้านตัว ราคาบาร์บี้สำหรับเด็กประมาณตัวละ 400-500 บาท หากเป็นรุ่นสะสม ก็จะมีราคา 1,100 บาทขึ้น แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าหายาก ก็จะมีราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปค่ะ


BLYTHE, BARBIE, KITTY,TEDDY BEAR, DOLLS, ตุ๊กตา

2. Teddy Bear

กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1903 ที่เยอรมัน โดยในครั้งแรกยังไม่ได้เรียกมันว่าหมีเท็ดดี้ จนกระทั่ง เทโอดอร์ รูสเวลท์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ซึ่งเป็นคนที่ชอบล่าหมีเป็นชีวิตจิตใจ จนมีนักวาดการ์ตูนคนหนึ่งเขียนภาพล้อเลียนโดยมีเจ้าหมีตัวเล็กๆ อยู่ข้างหลังตลอดเวลา ทำให้ทุกคนเรียกหมีตัวนั้นว่าเจ้าเท็ดดี้ต่อมาพ่อค้าหัวใสขาวอเมริกันได้สั่งซื้อตุ๊กตาหมีจาก นางมาการ์เร็ต เท ซึ่งเป็นผู้ออกแบบจำนวน 3,000 ตัว ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้จึงกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการนับแต่บัดนั้นเมื่อตุ๊กตาหมีขายดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดการเลียนแบบกันมากขึ้น ทำให้หลานชายของนางมาการ์เร็ต เท ต้องสร้างเอกลักษณ์ของตัวตุ๊กตาขึ้นมาโดยทำเป็นกระดุมติดอยู่ที่หู และมีแถบผ้าชิ้นเล็กๆ เขียนว่า Steiff ซึ่งก็คือชื่อบริษัทผู้ผลิตนั่นเอง

ปัจจุบันบริษัท Steiff ผลิตตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ประมาณปีละ 1.5 ล้านตัว โดยหมีเท็ดดี้ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์คือ หมีที่ทำขึ้นในปี ค.ศ.2000 ที่มีชื่อว่า Teddybr "Louis Vuittan" ในปี 2000 ที่มีมูลค่ารวมแล้วประมาณ 2 แสนยูโร เหตุที่มันแพงขนาดนี้ก็เพราะทำด้วยมือ มีชุดและเครื่องประดับ แถมยังมีลายปักอีกด้วย เมื่อนำไปประมูลราคาจึงสูงมาก โดยผู้ชนะการประมูลในครั้งนั้นเป็นชาวเกาหลีที่นิยมสะสมของหายาก


BLYTHE, BARBIE, KITTY,TEDDY BEAR, DOLLS, ตุ๊กตา

3. Kitty

กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1974 โดยบริษัท Sanrio ที่ลอนดอนกำเนิดคิตตี้บนกระดานวาดภาพจนมาถึงปี 1975 ก็ได้ทำเป็นโมเดลพลาสติกเล็กๆ ขึ้น ต่อมาในปี 1976 คิตตี้เริ่มปรากฏอยู่ตามกล่องอาหารชุด และไม่นานก็ได้มีการ์ตูนชุดออกมาในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นยังมีละครทีวีอีกด้วย

ปี 1980 คิตตี้เข้าไปอยู่ในกิ๊ฟช๊อปต่างๆ โดยเฉพาะไปโด่งดังในญี่ปุ่น ปี 1990 คิตตี้มีพื้นที่แสดงของตนเองที่เมืองมีชื่อว่า "Sanrio Puroland" อยู่ที่เมืองทามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถดึงดูดคนได้มากกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี และในปี 1991 ที่คิวชู ญี่ปุ่นถึงกับมีการสร้างสวนสาธารณะที่เป็นเสมือนอาณาจักรของคิตตี้ก็ว่าได้

ส่วนเรื่องราวย่อๆ ของคิตตี้มีดังนี้ครับ คิตตี้นั้นเกิดเดือนพฤศจิกายน ปี 1974 ที่ชานเมืองลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณสองหมื่นคน คิตตี้มีพี่น้องฝาแฝดชื่อ มิมมี่ ชอบทำคุกกี้ให้คิตตี้กิน คิตตี้ชอบกินของความหลายชนิด อย่างลูกกวาด พายแอปเปิล ฝีมือคุณแม่ คิตตี้ชอบสะสมดวงดาวเล็กๆ ปลาทอง เหรียญเงินและริบบิ้น ตั้งแต่พ่อของเธอไปทำงานที่นิวยอร์ค เธอก็มีเพื่อนมากมาย คิตตี้ชอบผู้ชายใจดีและเป็นมิตร รักครั้งแรกของคิตตี้คือหนุ่มที่ชื่อ Dear Danlel แต่ไม่นานเขาก็ต้องจากไปเพราะเดินทางตามครอบครัวไปแอฟริกา คิตตี้จึงได้มาคบกับ Tippy หมีเพื่อนร่วมชั้นเรียน


BLYTHE, BARBIE, KITTY,TEDDY BEAR, DOLLS, ตุ๊กตา

4. Blythe

กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1972 จากโรง Kenner สหรัฐอเมริกา ในตอนแรกได้จัดทำตุ๊กตาออกมาถึง 4 แบบคือ Blythe, Karess, Willow และ Skye ต่อมาทางโรงงานก็ได้จ้างดีไซน์เนอร์มาช่วยออกแบบให้ ซึ่งทำให้ตุ๊กตาสามารถเปลี่ยนสีลูกตาได้ แถมมีเครื่องแต่งกายมากมายที่สลับสับเปลี่ยนกันแทบไม่รู้จบ อย่างไรก็ตาม แต่แทนที่จะไปได้สวยกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะหน้าตาและสีสันของมันทำให้เด็กกลัวมาก จนต้องหยุดผลิตทั้งที่เปิดตัวได้เพียงแค่ปีเดียว ไม่นานนักก็เลิกใจการไปถึง 30 กว่าปี

หลังจาก 30 ปีผ่านไป ตุ๊กตาไบลทธ์ก็กลับมาอีกครั้ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการที่ Gina Garan โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกาได้รับมอบตุ๊กตาจากเพื่อน และเธอก็พาไบลทธ์ไปกับเธอแทบทุกที่ทั่วโลก และถ่ายภาพจากกล้อง SLR โดยมี Blythe เป็นนางแบบ ภาพของเธอถูกนำมารวมเป็นหนังสือชื่อ This is Blythe และ Finecracker Altemative Book ผลก็คือ Gina Garan โด่งดังและนำพาให้ตุ๊กตาไบลทธ์ก็กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และเมื่อบริษัท Tokoro ของประเทศญี่ปุ่นได้ลิขสิทธิ์ผลิตตุ๊กตา จึงทำการประชาสัมพันธ์จนทำให้ไบลทธ์เป็นที่รู้จักมากมาย ด้วยการยกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และทำให้มีส่วนร่วมกับวงการแฟชั่นด้วยการหาแบรนด์เนมต่างๆ มาสนับสนุนทำให้วันนี้ไบลทธ์ กลายมาเป็นตุ๊กตาที่มีราคาขึ้นมาทันที ปัจจุบันราคาอยู่ที่หลักหลักพันจนไปถึงหมื่นบาทขึ้น


BLYTHE, BARBIE, KITTY,TEDDY BEAR, DOLLS, ตุ๊กตา

5. Rika-Chan

กำเนิดอย่างเป็นทางการ ค.ศ. 1967 โดยบริษัททาคาระ หลังจากที่นักเขียนการ์ตูนชื่อนาง มิยาโกะ มากิ ได้สร้างสรรค์ตุ๊กตาริกะจังขึ้นมาให้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคนญี่ปุ่นมากกว่าชาวยุโรป ก็ทำให้เด็กสาวชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นเพลิดเพลินกับการเล่นตุ๊กตาเป็นพิเศษ เพราะตุ๊กตาริกะจังมีรูปแบบการแต่งตัวตามแฟชั่นและการเล่นไม่แพ้ตุ๊กตาบาร์บี้เลยทีเดียว

ยอดขายของริกะจังนั้นสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 53 ล้านตัวทั่วโลกแล้ว และในโอกาสที่มีการเปิดตัวริกะจังในวาระครบรอบ 35 ปี ทางบริษัทโทมี่ได้จัดทำตุ๊กตาริกะจังแบบพิเศษขึ้นมา โดยตัวที่เห็นอยู่ซ้ายมือสุดนี้ที่สูง 22 เซนติเมตร ประดับเพชร 51,433 กะรัด จำนวน 881 เม็ด มูลค่า 935,000 คอลลาร์ หรือราว 31.8 ล้านบาทเลยล่ะค่ะ

ขี้หึงทั้งคู่.. จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร!!



    หึงทั้งคู่!หึง

    Q : สามีขี้หึง ภรรยาขี้หึง จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร

            A : ถ้าขี้หึงทั้งคู่ก็เหมือนอยู่ในสงครามเรียกว่า ทำตัวให้ทุกข์ทรมานอยู่ในกองทุกข์ ทั้งๆ ที่ทุกข์ยังไม่ทันเกิด

            คนขี้หึงมักคิดอะไรเกินกว่าเหตุ บางครั้งจึงเถียงกันด้วยอารมณ์ เผลอๆ ก็แจกขนมตุ๊บตั๊บเป็นของแถมบ้าง โดยอ้างว่าเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างผัวเมีย (ให้เจ็บตัวเล่น)

            คุณจึงต้องถามตัวเองว่า มัวแต่หึงกันอยู่นี้ เป็นความสุขหรือความทุกข์

            ถ้าเห็นว่าทุกข์มากกว่าสุข แล้วจะหึงกันไปทำไม มีแต่ทำให้เขาและเราขาดความสุขไม่พอยังทำให้ลูกเต้าสุขภาพจิตเสียก่อนวัยอันควร

            แล้วที่หึงกันอยู่เรื่อยเพราะระแวงว่า อีกฝ่ายอาจเป็นใจจึงต้องว่ากล่าว ด่าว่า พะบู๊ให้เห็นดำเห็นแดงเห็นดาวระยิบระยับแบบหมดแรง จะหาเรื่องต่อไปหรือไง

            ถ้ารักจริง ก็ไม่เป็นอื่นกันอยู่แล้ว
            แล้วเราทั้งสองรักกันอีท่าไหนถึงทำให้แต่ละฝ่ายมีเรื่องมาพาลกัน ให้รำคาญใจ หวงกันพอหอมปากหอมคอยังพอให้อภัยกันได้ แต่ถ้าหวงจนน่าเบื่อคงอยากทะเลาะกันมากกว่า

            ถามใจตัวเองว่า ชอบนักหรือ มีสภาพชีวิตแบบนี้
            วิธีไม่ให้เขาหึง เราควรทำตัวให้เห็นกุลสตรี อย่าไปเข้าใกล้ผู้ชาย เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งคิดมาก
            อะไรที่เขาไม่ชอบก็อย่าทำ

            มีเมียคนหนึ่งเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เธอไม่เคยแลชายใดให้สามีขุ่นเคืองใจ แต่สามีก็ไม่เข้าใจหาว่าเธอเป็นอื่นอยู่เรื่อยเพราะเขาว่า เมียเป็นอื่นจริงๆ
            แค่ฝันยังคิดมากขนาดนี้ ถ้าเป็นจริงคงได้ตายกันไปข้างหนึ่ง

            เมียบอกว่า อยากหนีไปปล้นชาวบ้านให้ได้ถูกฆ่าตายบ้าง แต่พอนึกขึ้นได้ว่า ตายไปแล้วไม่ได้มีโอกาสหึงอีก หูจะมีปัญหาเพราะขาดแรงสั่นสะเทือนจาก ป.ม.(ของสามี) เลยต้องตัดใจ เพื่อจะได้มีโอกาสบริหารหูและปากต่อไป

            อย่างไรก็ตาม คนเราเป็นผัวเมียกันต้องเชื่อใจกัน อย่าระแวง ที่สำคัญเราทำให้เขาระแวงหรือไม่ ถ้าทำ ก็เลิกเสีย ดีกว่ามีเรื่องกันไม่มีที่สิ้นสุด จนแทบบ้ากันไปทั้งสองฝ่าย
รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com


ไม่พูด    ไม่พูดจาแปลว่าไม่รักหรืออย่างไร

    Q : เขาไม่พูดเรื่องของเขาเลย ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือครอบครัว ควรทำอย่างไร (เขารักเราหรือเปล่า)

            A : การไม่พูด ไม่ได้แปลว่าไม่รัก เขาไม่พูดเพราะอาจไม่อยากให้เราไม่สบายใจ หรือกังวลเกินกว่าเหตุ เขาถึงรับทุกข์ไว้คนเดียว ยิ่งเราเป็นคนคิดมาก เขาจะยิ่งไม่กล้าบอกอะไร

            ที่เป็นแบบนี้เพราะเขารักเรา เขาจึงไม่อยากทำให้คนที่เขารักไม่มีความสุข คุณจึงอย่าไปเซ้าซี้จนทำให้เขาอึดอัดและต้องมานั่งเสียเวลาคอยประคับประคอง จิตใจคุณเพิ่มอีกเรื่องหนึ่งให้เหนื่อยใจมากขึ้น ทางที่ดีคุณพยายามเอาใจเขา เพื่อเขาจะได้แก้ปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัวหรือการงานได้ดีขึ้น

            และถ้าเขาปรึกษาคุณเรื่องอะไรก็ตาม คุณต้องรับฟัง อย่าตำหนิเพราะเขาจะขยาดไม่กล้าเล่า แม้คุณจะฟังแล้วไม่สบายใจก็ตาม

            การรับรู้ช่วยกันแก้ปัญหา จะทำให้เขากล้าบอกเล่าเรื่องอะไรก็ตามที่เขากังวล หากเขาเห็นว่า เราตั้งใจช่วยและสามารถช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ไม่พอ ยังเป็นคนที่รู้ใจเขาไปหมด เขาจะเล่าให้เราฟังทุกอย่าง
รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com

แม่บ้าน
    เพื่อนหาว่าโง่

    Q : เพื่อนบอกว่าเราโง่ เป็นแม่บ้านอย่างเดียว ระวังสามีนอกใจ

            A : ชีวิตของคุณ ทำไมต้องฝากไว้กับปากของเพื่อน

            ถ้าเพื่อนหวังดีจริง คงไม่พูดให้คุณไม่สบายใจ และครอบครัวแตกร้าว คุณฉลาดมีสามีเลี้ยงดูไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยยาก นับว่าคุณเป็นคนมีวาสนา

            สามีจะนอกใจหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณไม่ใช่การเป็นแม่บ้านอย่าง เดียว คนไม่น้อยทำงานนอกบ้าน สามีก็มีเมียน้อยได้ หากคุณเป็นแม่บ้านที่ดี รู้จักดูแลตัวเองให้ดี ไม่อ้วนตุ๊ต๊ะแบบน่าเก็บไว้บนหิ้ง แต่เป็นคนที่รู้จักพูดจา แต่งตัว แต่หน้า ทำผมให้น่าดู ทำอาหารการกินเก่ง เอาใจเป็นเลิศ แถมเป็นแม่ที่ดี เป็นเมียที่เยี่ยม ที่สามีเขาไปไหนก็ภาคภูมิใจ แล้วสามีจะนอกใจได้อย่างไร

19 คำ โกหกหน้าตายของผู้ชาย (ใครมีแฟนเป็นผู้ชายต้องดูค่า)


จับผิด 19 คำ โกหก หน้าตายของผู้ชาย
  1. "ชีวิตนี้ผมจะไม่ขอรักใครอีกนอกจากคุณ" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 90 คน)
    • ใครได้ยินคำนี้อย่าหลงดีใจ เพราะเค้าสามารถรักคนใหม่ได้เมื่อต้องเลิกกันไปแล้ว
  2. "เธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักมากที่สุด" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 85 คน)
    • แม้เค้าจะแทงกั๊กประมาณว่าถึงจะมีกิ๊กใหม่ในอนาคต เค้าก้อไม่สามารถรักเท่าที่รักเธอ ฟังดูก้ออาจจะเป็นไปได้แหะ
  3. "เราจะอดทนเป็นแฟนกันจนแต่งงานในอนาคต" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 95 คน)
    • เค้าพูดด้วยความรู้สึกแบบเด็กๆที่ยังไม่ได้ผ่านสารพัดร้อยล้านเหตุ การณืที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้ความรักสะดุดเมื่อไหร่ก้อได้
  4. "ผมไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อน" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 83 คน)
    • ถ้าเค้าเป็นคนที่นิสัยยอมคน เค้าก้อจะยอมกับผู้หญิงทุกคนนั่นแหล่ะ
  5. "สิ่งที่ผมทำลงไป ผมพยายามทำดีที่สุดแล้ว" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 78 คน)
    • ถ้าเกิดเค้าได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ต่อให้ผูหญิงคนนั้นหูหนวกหรือตาบอดยังไงก้อต้องรู้สึกได้
  6. "ก็ผมเป็นของผมอย่างงี้มานานแล้ว" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 79 คน)
    • เค้าพูดเพื่อให้เธอยอมรับนิสัยห่วยแตกของเค้า โดยอ้างความเป็นตัวของตัวเอง
  7. "ให้อภัยผมเถอะ ผมจะไม่ได้ทำอีกแล้ว" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 65 คน)
    • ธรรมดาที่เค้าจะต้องพูดเพื่อใหการอภัยโทษป้องกันชะตาขาด และเธอเชื่อหรอว่าเค้าจะไม่พูดคำนี้อีกและอีกๆๆๆๆ
  8. "ไม่รักผมไม่เป็นไร ขอแค่ให้ผมได้รับเธอก้อพอ" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 83 คน)
    • แค่เธอแสดงให้เห็นว่ายังไงเธอก้อไม่มีวันรักเค้าได้จริงๆ ขี้คร้านจะรีบเด้งตัวเองจากไปภายในไม่กี่วัน พร้อมด้วยคำนินทาเธออีกก้อนใหญ่
  9. "คิดถึงจนทนไม่ไหวแล้ว ออกมาเจอกันหน่อยนะ" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 88 คน)
    • เค้าอาจจะถวิลหาเธอจริงๆ แต่ไม่ได้รุนแรงถึงกับจะลงแดงตายเหมือนเธอเป็นยาเสพย์ติดของเค้าขนาดนั้น
  10. "ทำไม ผมเลวจนเธอไม่ไว้ใจได้เลยหรอ" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 71 คน)
    • เมื่อมีความไม่พอใจต่อการกระทำของเค้าในทุกกรณี เค้าจะต้องรีบปกป้องตัวเอง เพื่อแตะเบรคความคิดของเธอ
  11. "ขอนอนกอดเฉยๆ ก็พอ" (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 89 คน)
    • 89 คนนั้นหมายถึงการกอดในครั้งแรกที่ใกล้ชิดตัวกันมากขนาดนั้น แต่จะพุ่งพรวดถึง 95 คนทันที ในการกอดครั้งต่อไป
  12. “ผมรักนะเลยอยากให้เธอเป็นของผม” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 95 คน)
    • เพราะถ้ารักจริงทำไมต้องขอเอาเปรียบเราด้วย รักแล้วไม่หน้าด้านขออะไรๆ เรื่องนี้ไม่ได้หรือไง
  13. “เธอคนนั้นเป็นแค่เพื่อนจริงๆ” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 65 คน)
    • ไม่มีทางซะหรอกที่เมื่อมีผู้หญิงมากิ๊ก แล้วเขาจะปฏิเสธเจ้าหล่อนเป็นแค่เพื่อน
  14. ”ผู้หญิงคนนั้นเค้ามาชอบผมเอง” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 51 คน)
    • ฟังแล้วน่าภูมิใจที่พ่อตัวดีมีเสน่ห์เหลือร้าย แต่ช้าก่อนเพราะเพลงของปานนำมาใช้ได้กับคำโกหกคำนี้เสมอ “ตบมือข้างเดียว ไม่ดัง”
  15. “เพื่อนมันลากผมไป ผมอยากไปกับมันซะที่ไหนเล่า” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 95 คน)
    • ถ้าไม่อยากไปจริงๆ แม้เค้ามาฉุดยังไงก้อไม่ยอม ดังนั้นถ้าเค้าไม่ถูกเพื่อนเอาปืนจ่อหัว อย่าไปเชื่อว่า เค้าไม่อยากไปเฮกับเพื่อน
  16. “ผมไม่ว่างจริงๆ อยากเจอเธอจะตายไป” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 85 คน)
    • คำว่าไม่มีเวลาว่างของเค้าก้อคือไม่อยากไปเจอเธอนั่นเอง และที่มันไม่ว่างเพราะว่าหายไปเฮกับเพื่อนๆ หรือกิจกรรมที่เร้าใจกว่าของเค้า
  17. “ไม่มีทางที่ผมจะเห็นเพื่อนสำคัญมากกว่าเธอ” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 51 คน)
    • ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันดีอยู่ว่าคำพูดผู้ชายจะพูดกับผู้ร่วมแก๊งว่า”เฮ้ย กรูน่ะไม่เคยเห็หญิงสำคัญกว่าเพื่อนอยู่แล้ว”
  18. “มีอะไรเราต้องไม่ปิดบังกันทุกเรื่อง” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 64 คน)
    • แม้จะรักกันปานหายใจปอดเดียวกัน แต่เชื่อเหอะว่าทุกคนบ่อมมีความลับของตัวเองบ้าง และผู้ชายไม่มี วันคายความลับของตัวเองออกมาอย่างแน่นอน
  19. “ถ้าวันไหนต้องเลิกกัน ผมยังจะห่วงเธอเหมือนเดิม” (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 95 คน)
    • มันไม่มีทางจะเป็นไปได้อยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดก้อไม่มีทางว่าจะห่วงใยกันได้เท่าเดิม
อ่านแล้ว อย่า ลืมระวังด้วยนะค้า!!

อันดับ 10 สัตว์ประหลาดตัวเป็นๆ ที่น่ากลัวที่สุด


ไทม์จัดอันดับ 10 สัตว์ประหลาดตัวเป็นๆ ที่น่ากลัวที่สุด
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
MThai News : เว็บไซต์นิตยสารไทม์ ได้จัดอันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุดในโลก 10อันดับ
โดยอันดับที่ 1  เป็น จระเข้ยักษ์ ที่พบในหมู่บ้านบูนาวัน ในประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความยาว 21 ฟุต และน้ำหนักกว่า 2370 ปอนด์ (ประมาณ 1 ตัน) ซึ่งมีคนสังเวยชีวิตให้เจ้าจระเข้ยักษ์ตัวนี้หลายคน จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ช่วยกันใช้เครนนำร่างของมันขึ้นมาไว้บนรถบรรทุก

10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับที่ 2 ปลาหมึกยักษ์ ไม่ค่อยถูกพบขณะยังมีชีวิต แต่ปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า มันจะเติบโตและมีความยาวได้ถึง 45 ฟุต และหนักเกือบ 1 ตัน ซึ่งถูกถ่ายภาพไว้ได้ในปี 2004 ที่ใต้ทะเลลึก 3,000 ฟุต
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับที่ 3 ได้แก่ Goliath Birdeater Tarantula แมงมุมยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 1 ฟุต หนักประมาณ 6 ออนซ์ (170 กรัม) มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โดย สมญานาม Goliath Birdeater Tarantula มาจาก แมงมุมชนิดนี้ชอบกินนกฮัมมิ่งเบิร์ด
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับ 4 คือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส (Portuguese Man-of-War)  เป็นแมงกระพรุนที่มีลักษณ์คล้ายปลาหมึกที่มีพิษร้ายแรงมาก พบในทะเลเปิดของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลเมดิเตอเรเนียน, มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับ 5 ได้แก่ แมงป่องจักรพรรดิ ถูกพบอยู่ทางตะวันตกของแอฟริกา เป็นแมงป่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 8 นิ้ว แม้ว่าหล็กในจะทำให้มันดูดุร้าย แต่ความจริงแล้วในเป็นสัตว์ที่เชื่องและสามารถนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับ 6 คือ ค้างคาวดูดเลือด มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ชอบดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหาร
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับ 7 ได้แก่ ปลาพญานาค (ปลายักษ์) เป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดถึง 56 ฟุต อาศัยอยู่ในน้ำลึกกว่า 3,000 ฟุต เคยพบตัวใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 200 ฟุต แต่เมื่อมันใกล้จะตายมักลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ จนบางครั้งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นงู
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับ 8 คือ แมงกระพรุนกล่อง(ตัวต่อทะเล) อาศัยอยู่ในน้ำตามแนวชายฝั่งของออสเตรเลียตอนเหนือและทั่วอินโดแปซิฟิก มีสีฟ้าอ่อน โปร่งใสเป็นแมงกระพรุนที่มีพิษร้ายแรงมาก เมื่อถูกต่อยพิษของมันจะตรงเข้าสู่หัวใจและระบบประสาท
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
อันดับที่ 9 ได้แก่ งูเหลือมพม่า เป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โตเต็มที่ได้ถึง 25 ฟุต และหนักถึง 200 ปอนด์ แต่ไม่มีพิษร้ายแรง ล่าเหยื่อโดยการบีบรัดเหยื่อ มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
10 อันดับ สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุด
และอันดับที่ 10 ได้แก่ The Loch Ness Monster สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ มีลำคอยาว ลำตัวสีดำ อาศัยอยู่ในน้ำลึก ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ เชื่อว่าเนสซีมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยในทะเลยุคเดียวกับไดโนเสาร์