Homebright

Bright

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ:D

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทายนิสัยจากอักษรหน้าชื่อ

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ A,J และ S 
สำหรับคนที่มีอักษรนำหน้าชื่อขึ้นต้นด้วยตัวเอเจ และ เอส ในหัวข้อนี้ สามารถทายอุปนิสัยของบุคคลผู้นั้นได้ว่า เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นิยมความแปลกใหม่อยู่เสมอ ชอบการทำงานที่ได้แสดงออกถึงความโดดเด่นของตัวเอง และรักการท่องเที่ยวเดินทางเพื่อแสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจให้ชีวิตนอกจากนี้ยังบอกถึงการเป็นคนรักความอิสระเสรี ชอบใช้ชีวิตที่ไม่มีการผูกมัดให้อยู่นกรอบจนเกินไป และถ้ามีคู่รัก ก็จะไม่ให้คำสัญญาใด ๆ ที่บอกถึงความยืนยงของชีวิตคู่ 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ B,K และ T
สำหรับคนที่มีอักษรหน้าชื่อขึ้นต้นด้วยตัว บี,เค และ ที บอกถึงนิสัยที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นคนที่มีกระฉับกระเฉงร่าเริงมาก มีชีวิตและความต้องการวูบวาบไปตามแรงอารมณ์ และรู้สึกไวต่อสิ่งรอบตัว จึงไม่ใช่คนที่จะให้อยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นาน เพราะมีคุณสมบัติของคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก ชอบแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ มาให้ตัวเองศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาง่าย ๆ และยังชอบการโต้แย้งแสดงความคิดเห็น 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ C,L และ U
คนที่มีอักษรนำหน้าชื่อคือตัว ซีแอล และ ยู นั้น บอกถึงนิสัยของการเป็นคนมองโลกในแง่ดี อ่อนโยนรวมทั้งเป็นมิตรกับคนได้ง่าย เข้ากับคนได้ทุกกลุ่ม ทั้งยังมีความสามารถในการติดต่อประสานงานกับผู้คนไดด้มีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะมีลักษณะของคนที่ขี้อายไม่ชอบแสดงออกถึงความต้องการของตัวเอง และค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวที่คนอื่นเอื้อมเข้าไปไม่ถึงอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีจินตนาการ มักมีงานอดิเรกที่เกี่ยวกับเรื่องศิลปะ 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ D,M และ V
ผู้ที่มีอักษรนำหน้าชื่อคือตัว ดี เอ็ม และวี นั้น มักเป็นคนที่มีอุปนิสัยที่ขยันขันแข็ง ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามและมีแบบแผนไปเสียทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนทั้งยังมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานของตนเองในระดับสูงมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ใจแข็ง มีความหนักแน่นอดทน ไม่ชอบชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาบ่อย ๆ แต่ชอบการก้าวไปอย่างช้า ๆ แต่ว่ามั่นคงมากกว่า นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความคิดในเชิงอนุรักษ์นิยมอีกด้วยนะ 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ E,N และ W
สำหรับผู้ที่มีอักษรนำหน้าชื่อของตรคือตัว อี เอ็น และดับเบิ้ลยูนั้น มักมีอุปนิสัยที่มีความสนใจอยากรู้อยากเห็นในเรื่องของคนอื่นมาก แต่สำหรับเรื่องราวส่วนตัวของตน มักจะปิดบังซ่อนเร้น และไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่ายบางครั้งจึงเหมือนคนขี้ระแวง ไม่ค่อยเชื่อใจหรือไว้วางใจใครง่าย ๆ จนกว่าจะได้ผ่านประสบการณ์ที่นำความเชื่อมั่นต่อคนนั้น ๆ ด้วยตัวเองเสียก่อน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบการทดสอบและทดลองในทุก ๆ เรื่องที่ตนสนใจ 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ F,O และ X
สำหรับคนที่มีอักษรนำหน้าชื่อคือตัวเอฟ โอและเอ็กซ์นั้นบอกถึงนิสัยของการเป็นคนที่อ่อนโยน อบอุ่น มีน้ำใจไมตรีกับทุกคน และเป็นคนชอบชีวิตที่มั่นคงมาก ทั้งยังเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับชีวิตครอบครัวของตนสูงชอบให้คนใกล้ชิดรอบข้างมีความรักใคร่กลมเกลียวกัน และเป็นคนที่มีความสุภาพต่อทุกคนโดยเท่าเทียมกัน จึงรังเกียจการแสดงออกในทางที่หยาบคายทุกรูปแบบ แต่จะไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเท่าที่ควร และชอบปกป้องตัวเองเสมอ 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ G,P และ Y
ส่วนคนที่มีอักษรนำหน้าชื่อ คือตัว จี พี และวาย บอกถึงนิสัยที่รักความประณีตและสมบูรณ์แบบในทุกเรื่องมักแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง และให้ความสำคัญต่อเรื่องเกียรติยศศักดิ์ศรีของตนมาก ทั้งยังเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ แต่ค่อนข้างจะหยิ่งและถือดีในตัวเองมากทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนใจคอกว้างขวาง สามารถยอมเสียสละได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้เป็นที่รักและชื่นชมของคนรอบข้าง นอกจากน้ยังเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำ รสนิยมดี ชอบความหรูหรา 

ตัวอักษรหน้าชื่อคือ H,Q และ Z
สำหรับคนที่มีอักษรนำหน้าชื่อคือตัว เอช คิว และแซด นั้น บอกถึงลักษณะนิสัยที่เป็นคนที่มีความอดทนสูงกับทุก ๆ เรื่องในชีวิตตนเอง ทั้งยังเป็นคนที่มีความเข้าใจโลกและชีวิตได้ดี จึงเป็นนักแก้ปัญหาที่มีความสามารถทั้งในเรื่องของตนเองและคนอื่นและเป็นคนที่ตัดสินใจได้ดีกับทุก ๆ เรื่อง โดยมีการพิจารณาที่รอบคอบ แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนช่างวิตกไปเสียกับทุกเรื่องและไม่เคยเชื่อมั่นในคนอื่น ชอบการพึ่งพาตนเอง และแสวงหาชีวิตที่ประสบความสำเร็จร่ำรวย
ตัวอักษรหน้าชื่อคือ และ R
สำหรับคนที่มีตัวอักษรนำหน้าชื่อคือตัว ไอและอาร์ นั้นบ่งบอกถึงอุปนิสัยของการเป็นนักคิดนักอุดมคติและชอบแสวงหาเหตุผลในทุก ๆ เรื่อง ทั้งยังมีความสามารถในการอ่านจิตใจของคนได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็เป็นคนใจกว้างมีความคิดเห็นอ่านที่ล้ำหน้า และมีน้ำใจไมตรีกับทุก ๆ คน จะไม่ใช่คนที่ทำอะไรเพื่อตนเองเท่านั้น แต่จะทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และให้ความสำคัญกับเรื่องที่ถูกต้องดีงามเป็นคนที่มีคุณธรรมในจิตใจมาก 

"10 เรื่องร้ายของการมีเซ็กส์ก่อนวัยอันควร"


เซ็กส์สนุกหฤหรรษ์แต่ก็ทุกข์เสมอเมื่อเวลาผ่านเลย โดยเฉพาะวัยที่ยังไม่เหมาะไม่ควร ผลดีของการมีเซ็กส์ก็มากหลายเคยนิตยสารบางเล่มแยกแยะออกมาได้เกือบครึ่งร้อยประเด็น ซึ่งถ้ามองกลับกันก็ใช่จะดีตามนั้นเสมอ
     พบกับเรื่องร้ายๆ 10 ข้อที่เกิดจากเซ็กส์ก่อนวัยอันควร เพื่อเป็นแนวทางคิดก่อนที่จะเผลอทำอะไรลงไปด้วยตัณหาราคะ โดยเฉพาะหญิงสาว แม้โลกจะยอมรับให้สิทธิเท่าเทียมชาย แต่ท่านมักจะเสียเปรียบเสมอ
1. ท้อง และแท้ง ยิ่งในวัยเรียนการได้รับปริญญาใจก่อนกำหนด 4 ปีการศึกษานั้น มันทำลายชีวิตมากพอตัวเชียวนะ มีน้อยคนที่จะทนอุ้มท้องไปนั่งร่วมชั้นเรียนกับเพื่อน และเชื่อเลยว่าคงไม่มีสถานศึกษาใดสนับสนุนด้วย เมื่อชีวิตของการเป็นแม่เริ่มต้นขึ้น ความพร้อมสำหรับทารกน้อยๆ ย่อมคลุกคลัก ปัญหาปากท้องและสังคมก็จะตามมาทีหลัง ส่วนใครที่ไม่เกรงต่อบาปยืนยันว่าฉันจะทำแท้งนั่นก็เท่ากับว่าทำร้ายตัวเองไปเสียแล้ว แต่ถ้ามั่นใจว่า “ฉันไม่ท้องหรอกย่ะ ป้องกันดี” จากการวิจัยระบุว่าแม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสพลาดได้สูงถึง 21% เนื่องจากคุณภาพของถุงยางเสื่อมหรือใช้ไม่ถูกต้องและการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 5%
2. ซึมเศร้า เพราะวัยรุ่นยังไม่ใช่วัยที่จะตั้งรากปักฐานกับใครผู้ใด ยังเป็นวัยแห่งการแสวง เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนคู่นอนจึงเกิดเสมอๆ การซึมเศร้าที่เกิดจากขาดความรักที่ยั่งยืนอาจเกาะกินหัวใจคนเราได้
3. ติดโรค อันนี้น่ากลัวนะครับอย่างที่บอกในข้อ 2 ว่าวัยรุ่นเป็นเพียงวัยแสวงหาน้อยคนนักที่จะพบรักแท้ยืนยาวเหมือนชีวิตคู่ผู้ใหญ่ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ย่อมเกิดโรคตามมาแม้จะป้องกันก็ตาม
4. อาจทำให้เรียนซ้ำชั้นได้ เพราะมุ่งมั่นทำแต่คะแนนรักไม่สนใจการเรียน
5. เป็นขี้ปากชาวบ้าน โดยเฉพาะพวกขี้อิจฉา โดนนิทาว่าเสียตัวแล้วบ้าง เปลี่ยนแฟนอีกแล้ว โดนแฟนทิ้งอีกแล้วบ้าง สำหรับผู้ชายก็อาจจะเป็นที่รังเกียจของสาวดีๆ โดยข้อหา นักล่าผู้หญิง หรือนักล่าพรหมจรรย์ ฟังดูน่ากลัวนะครับ แต่เชื่อเลยว่าใครที่อ่านถึงข้อนี้ หัวเราะชัวร์
6. เกิดการหมิ่นเกียรติกันและกันระหว่างชายหญิง ต่างฝ่ายมองว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงตัวสนองความใคร่ ไม่มีรักแท้จีรัง ก่อนที่จะรู้จักกันอย่างแน่นแฟ้นเราอาจจะมองเขาในแง่อื่นไปเสียแล้ว
7. ถูกหลอกซ้ำซาก เพราะเคยปล่อยตัวและใจให้คนก่อนและความต้องการรักแท้ เพราะฉะนั้นคำว่ารักก็อาจจะกลายเป็นแค่ตะขอเบ็ดเกี่ยวเยื่อเท่านั้น
8. ใคร่มากกว่ารัก วัยรุ่นอาจจะต้องการมีเพศสัมพันธ์มากกว่ารัก และเข้าใจคำว่ารักผิดไป สุดท้ายส่งผลให้ไม่เข้าใจกันในที่สุด
9. ผิดหวังในรัก เมื่อคนดีที่เหมาะกับเราเข้ามาในชีวิต เมื่อเขารู้เรื่องราวในอดีตก็อาจจะหลีกหายไปได้ หรือเราเองอาจจะรู้สึกผิดกับอดีตไม่กล้าสู้หน้าเขาหรือเธอคนนั้น จนกลายเป็นคำว่า เธอดีเกินไป หรือเธอไม่คู่ควรกับฉัน เพราะเธอมันช่ำชอง ไม่น่าไว้วางใจ
10. สร้างความร้าวฉานในชีวิตคู่ เรื่องราวในอดีตไม่สามารถลบมันได้ แม้เราจะพยายามลืมไปเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อคู่ชีวิตล่วงรู้อดีตกาลของเราย่อมเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ชีวิตคู่จะมีความสุขได้อย่างไร แก้วเริ่มร้าวไม่นานก็แตก และไม่อาจประกอบได้ดั่งเดิม
   หวังว่าโทษ 10 ข้อของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร พอจะช่วยแตกหน่อทางความคิดให้ยับยั้งชั่งใจได้บ้าง เพราะความสุขชั่วครู่เพียงไม่กี่นาทีอาจทำลายความสุขชั่วชีวิตลงได้

ทะเลาะอย่างไรให้ลงตัว


หากเกิดปัญหาขึ้น เราจะประนีประนอมถนอมความรู้สึกคน รักได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหยุมหยิมไปจนถึงเรื่องการให้เกียรติกัน และความเสมอภาคเท่าเทียม เราจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีที่จะจัดการ กับความขัดแย้งเหล่านี้ คุณจะตำหนิเขาอย่างไร โดยที่ไม่ใช้คำพูด ถากถางเขา คุณจะขอร้องเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอย่างไรโดยไม่มีการ ข่มขู่ หรือทะเลาะกันด้วยวิธีไหนด้วยคำพูดและการกระทำแบบใดที่ จะไม่ทำให้คุณเสียใจภายหลัง ติเตียนโดยไม่ใช้คำพูดที่รุนแรง
  วิธีนี้เราควรฝึกฝนไว้ใช้กับทุกๆเรื่องในชีวิตประจำวัน ลองนึกดูสิว่าถ้าเจ้านายของคุณ ตำหนิคุณเรื่อง งานโดยใช้คำพูดที่คุณฟังแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็จะไม่รู้สึกเครียดเลย หรือการที่คุณ สามารถบอกคนรักได้ว่าคุณไม่พอใจที่เขาทิ้งกางเกงในเกะกะบนพื้น โดยไม่ใช้คำพูดถากถางเขา สิ่งที่ควร ทำคือคุณควรรู้จักยั้งคำพูดเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าระเบิดออกไปอย่างกราดเกรี้ยว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเรา แนะให้คุณเก็บกดความโกรธเอาไว้นะ คุณสามารถบอกคนรักเข้าใจความรู้สึกของคุณโดยนำการกระทำ และความรู้สึกมาผูกไว้ในประโยคคำพูด เช่น "เวลาคุณ(การกระทำของเขา) ฉันรู้สึก(ความรู้สึกของคุณ)" โดยคุณเพียงแต่เติมคำลงในวงเล็บ ซึ่งควรเป็นคำพูดที่ตรงและเห็นภาพได้ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกางเกงในเกะ กะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิด" พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดใดๆ ที่จะไปพาดพิงถึงแรงจูงใจใดๆ ของ ผู้กระทำ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกาเกางชั้นในเกะกะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นทาสของคุณที่ต้องคอย ตามเก็บ" พูดอะไรให้มันตรงประเด็นและเข้าใจได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการพูดจาดูแคลน
          การพูดจาดูถูกกันไม่ได้เป็นผลดีอะไรขึ้นเลย รวมถึงแววตาที่แสดงความรังเกียจสะอิดสะเอียน หรือ คำพูดที่ออกแนวเยาะเย้ย สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณร้ายส่อว่าชีวิตคู่มีปัญหาขนาดหนักที่คุณจำเป็นต้องเปิดอก คุยกันแล้ว อย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณเหล่านี้ หากคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดจาเชิงเยาะเย้ยคนรักเมื่อใด เมื่อนั้น คุณควรสำรวจทบทวนความรู้สึกของตนเองได้แล้ว คุณกำลังคิดว่าไม่ว่าเขาทำอะไรมันก็ผิดไปหมด แล้ว สิ่งที่คุณทำนั้น มันถูกทุกอย่างแล้วเหรอ คุณควรมองพฤติกรรมของคนรักในแง่มุมอื่นๆดูบ้าง
โทษที่การกระทำ ไม่ใช่ที่ตัวผู้กระทำ
             การกล่าวโทษว่าตัวเขาน่ะผิด ไม่ใช่การกระทำของเขาที่ผิด จะนำไปสู่ปัญหาได้ ซึ่งเราก็โทษกันแบบ นี้อยู่บ่อยๆ "คุณไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลย" ไม่มีใครพอใจที่ถูกกล่าวหาอย่างนั้นหรอก และคนเราเมื่อ ถูกกล่าวหาก็จะต้องพูดจาปกป้องตัวเอง ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกโกรธและอยากจะระบายออกมา คุณควรจะสงบ สติอารมณ์และคิดมุ่งไปที่ตัวปัญหา ถ้าคุณอยากให้เขารู้ถึงความรู้สึกของคุณ ก็ควรใช้คำพูดที่บ่งถึงการ กระทำของเขาที่กระทบความรู้สึกของคุณ พูดเฉพาะการกระทำที่ทำให้คุณโกรธแทนที่จะพูดว่า "เวลา คุณโมโหนี่เหมือนวัวบ้าเลยนะ" ควรพูดว่า "เวลาคุณโมโหขึ้นมาฉันรู้สึกกลัวค่ะ"
พูดกันให้เข้าใจ
          ความมั่นคงทางอารมณ์นั้น เกี่ยวข้องกับการเข้าใจในความรู้สึกของตัวคุณเอง และสามารถแสดงมัน ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ไปพาลโทษสิ่งอื่นใด และมีความสามารถที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหานั้นๆได้ คู่รักที่รู้จักสงบสติอารมณ์และหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง โดยรู้จักการประนีประนอมก็จะอยู่กันได้อย่างมีความสุข แต่การประนีประนอมอาจเป็นไปได้โดยไม่ราบรื่น หากอีกฝ่ายหนึ่งนิ่งเฉย ไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วย โดยการไม่พูดการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเงียบเฉยไม่ยอมพูดจาปรับความเข้าใจกัน ก็จะทำให้ความสัมพันธ์จบ ลงได้
ขจัดความคิดทางลบ
              ความคิดในเชิงลบอาจทำให้ชีวิตรักพังพินาศได้ หากแฟนของคุณเต้นรำใกล้ชิดติดร่างเพื่อนสนิท ของคุณเกินไปสักหน่อย มันไม่ได้หมายความว่าเขากำลังพยายามลวนลามเธอ และหมดรักคุณแล้ว พึงจำไว้ว่าการกระทำที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียยว ไม่ได้ทำให้คนคนนั้นกลายเป็นคนเลวไปเลย ขจัดความคิดในนเชิง ลบออกไปจากหัวสมองของคุณเสียก่อนที่มันจะสายเกินไป
ไว้ใจในญาณสังหรณ์
           
  ญาณสังหรณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในทางอารมณ์แห่งความสัมพันธ์นั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็อาจจะ แปรปรวนกลายเป็นเรื่องประสาทๆ หวาดระแวงได้ง่ายเช่นกัน อย่างถ้าคุณกำลังถกเถียงกันอยู่ และคู่รัก ของคุณกล่าวหาว่าคุณเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ก็จงหาแก่นของความจริงในสิ่งที่อาจดูเหมือนว่าเป็นความ หวาดระแวงจนเกินเหตุนั้น บางทีคุณอาจจะเพิ่งโมโหโกรธาในเรื่องขี้ประติ๋ว (ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่ถกเถียงอยู่เลย) จนทำให้อารมณ์ของคุณมีความเคลื่อนไหวไปในทางลย คู่ของคุณเขาก็จะรู้สึกได้ถึงความ เฉยเมยในอารมณ์นั้นของคุณ ก็เลยทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
ควบคุมความโกรธ
             ความโกรธเป็นสิ่งที่เราต้องระบายมันออกมา แต่การระเบิดความโกรธอย่างเดือดดาลนั้นไม่เป็นผลดี แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม การสะกดกลั้นมันเอาไว้ก็เป็นโทษได้เช่นกัน จากการวิจัยพบว่ายิ่งเก็บความโกรธไว้มากเท่าไหร่ ก็จะนำไปสู่การระเบิดทางอารมณ์ที่รุนแรงมากเท่านั้น วิธีการจัดการกับความโกรธก็คือการสงบสติอารมณ์โดยเบนความสนใจไปที่สิ่งอื่น เช่น เลี่ยงออกไป เดินข้างนอกเสียและคิดถึงเรื่องอื่นๆแทน พอคุณเริ่มสงบลงก็กลับมาพูดกันใหม่ โดยใช้เหตุผล อย่าให้อารมณ์รุนแรงมาแทรก
                  ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้น ถ้าคุณฝึกทักษะเหล่านี้ได้สำเร็จ บทเรียนที่คุณจะได้รับนอกจากคุณสามารถสร้างการสื่อสารที่เยี่ยม ยอดแล้ว คุณยังได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นรางวัล เพราะเมื่อคุณสามารถบอกคนรักได้ถึงความรู้สึกของคุณ และรับฟังความรู้สึกของเขาได้เช่นกัน ความใกล้ชิดก็จะบังเกิดขึ้น และเมื่อนั้นคุณและคนรักก็จะรู้สึกถึงความมั่นคง ซึ่งทั้งหมดนี้แหละที่เรียกว่า รักแท้

เผยแล้ว 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่! ของโลก

เผยแล้ว 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่! ของโลก

          มูลนิธิ 7 สิ่งมหัศจรรย์เผยผลการลงมติ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่กรุงซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2556 แอบกระซิบว่าอินโดนีเซีย ฟิลปปินส์ เวียดนามประเทศเพื่อนบ้านเราก็ติดอันดับกับเค้าด้วยนะ!


          1. ป่าอะเมซอนในอเมริกาใต้มีขนาดใหญ่กว่า 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9 ประเทศในอเมริกาใต้ ป่าอะเมซอนมีขนาดพื้นที่คิดเป็นครึ่งหนึ่งของป่าฝนที่ยังเหลืออยู่บนโลก และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก


          2.  อ่าวฮาลองในประเทศเวียดนามขึ้นชื่อเรื่องหินที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน อ่าวมีขนาดใหญ่กว่า 1,553 ตารางกิโลเมตร มีความยาวกว่า 120 กิโลเมตร และมีหินเล็กเกาะน้อยกว่า 1,969 เกาะ


         3.  น้ำตกอิกัวซูในประเทศอาร์เจนตินาเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดน้ำตกใหญ่กว่า 2.7 กิโลเมตร โดยมีน้ำตกเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกกว่า 275 แห่ง แต่แห่งที่ใหญ่ที่สุดคือน้ำตก คอปีศาจ (Devil’s Throat) ที่มีความสูงกว่า 80 เมตร


         4.  เกาะเชจูในสาธารณรัฐเกาหลีใต้เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ มีพื้นที่กว่า 1,846 ตารางกิโลเมตร ตรงกลางเกาะเชจูเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับไป
แล้ว


        5.  อุทยานแห่งชาติโคโมโดในประเทศอินโดนีเซียครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 เกาะในประเทศอินโดนีเซีย มีขนาดใหญ่กว่า 1,817 ตารางกิโลเมตร และมีสัตว์สงวนที่สำคัญคือ มังกรโคโมโด


         6.  แม่น้ำใต้ดิน เปอร์โตปรินเซซา ในประเทศฟิลิปปินส์  เป็นแม่น้ำที่อยู่ภายใต้ถ้ำหินปูนความยาวกว่า 8.2 กิโลเมตร มีจุดเด่นคือ จะมีลมผ่านถ้ำก่อนที่จะพัดตรงไปสู่ทะเลจีนใต้ แม่น้ำใต้ดินแห่งนี้ถือเป็นแม่น้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก


           7.  เทเบิ้ลเมาท์เทนท์ ที่ประเทศแอฟริกาใต้ภูเขาแห่งนี้มีจุดเด่นที่เป็นหินที่มีอายุยาวนานกว่า 6 ล้านปี และเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้กว่า 1,470 สายพันธุ์

10 วิธีเดินทางอย่างปลอดภัย ตามสไตล์ผู้หญิง


เดี๋ยวนี้สาวไทยใจกล้า ออกเดินทางแบบตะลุยเดี่ยว หรือไปไหนกันเองเฉพาะสาว ๆ กันมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะไปใกล้ไปไกลแค่ไหน สาว ๆ อย่างเราก็มีปัญหากว่าพวกผู้ชายอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย การระวังตัวจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางแต่ละครั้ง และนี่เป็นวิธีปฏิบัติง่าย ๆ สำหรับผู้หญิงเดินทาง

1. สวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย แม้คุณจะยังไม่มีชายใดหมายปองก็ตามที แต่นี่เป็นการป้องกันตัวเองอย่างง่าย ๆ จากผู้ชายแปลกหน้าที่จะเข้ามาตอแย เพราะสาวที่มีพันธะแล้ว หนุ่ม ๆ มักลดความสนใจลง แต่อย่าสวมแหวนเพชรเม็ดงามไปล่ะ เพราะจะกลายเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพแทน



2. วัฒนธรรมของแต่ละประเทศย่อมแตกต่างกันไป การเรียนรู้ข้อมูลไปก่อนย่อมสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องภาษา ท่าทาง เพราะผู้ชายบางทีเพียงแค่ทักทาย ยิ้มให้หรือส่งสายตาทักทาย เขาก็อาจตีความไปว่าสาวเจ้าเชื้อเชิญเข้าแล้ว


3. อย่ารับของจากคนแปลกหน้า ว่ากันตั้งแต่อยู่สนามบินเลย ถ้ามีคนฝากโหลดกระเป๋ามากับคุณ อย่าใจดี เพราะเขาอาจแอบยัดของผิดกฎหมายมาด้วย และเมื่ออยู่ระหว่างการเดินทาง อาทิใน ผับ บาร์ ปาร์ตี้ อย่ารับแก้วเครื่องดื่มจากผู้อื่น หรือทิ้งแก้วน้ำของตัวเองไว้ที่โต๊ะ ยานอนหลับ ยาอี หรือสารพัดยา มีโอกาสอยู่ในแก้วนั้น


4. แต่งกายให้เหมาะสม อย่าเปิด อย่าโป๊เกินเหตุ


5. พยายามอยู่ใกล้กลุ่มผู้หญิงด้วยกันไว้ ไม่วาจะอยู่ในร้านอาหาร นั่งรถไฟ รถเมล์ หรือที่สาธารณะ แม้ว่าจะไม่รู้จักพวกเขาก็ตามเถอะ เพราะนี่เป็นการป้องกันตัวเอง ไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตา ทำให้พวกไม่หวังดีเข้าถึงตัวคุณยากขึ้น


6. เดินเหินอย่างมั่นใจ อย่าทำตัวป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ละล้าละลัง เพราะจะทำให้พวกผู้ชายรู้อย่างง่ายดายว่าคุณเป็นคนแปลกถิ่น สบช่องโอกาสที่จะมาทำตัวสนิทได้ทันที


7. อย่าเก็บของมีค่าไว้ในกระเป๋าเดียวกัน ควรแบ่งใส่ไว้ในหลายกระเป๋า ถ้าใช้กระเป๋าแบบสะพายก็ควรสะพายมาด้านหน้าให้อยู่ในสายตาเรามากที่สุด


8. หลีกเลี่ยงการไปในที่เปลี่ยวและยามวิกาล


9. ถ้ามีใครมาชนคุณเข้า มีใครทำอะไรหกใส่เสื้อผ้าคุณ หรือมีใครมาถามทาง รวมถึงการถูกห้อมล้อมโดยฝูงชน หรือบรรดาเด็ก ๆ ให้ระวังไว้ เพราะนี่เป็นหนึ่งในเล่ห์กลของมิจฉาชีพ


10. สำคัญที่สุดคือเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง ถ้ารู้สึกไม่ชอบมาพากล ให้รีบพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้นทันที อย่ารีรอ เพราะเดี๋ยวจะสายเกินแก้

การดูแลรักษากล้องดิจิตอล


1. การทำความสะอาดกล้องดิจิตอล
การทำความสะอาดกล้องเป็นเรื่องง่ายและต้องทำอย่างถูกต้องด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะรักษาเลนส์ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอปราศจากรอยนิ้วมือ
ก่อนทำการเช็ดเลนส์ ให้จับด้านบนของตัวกล้อง และเป่าฝุ่นออก จากนั้นให้เช็ดเลนส์และส่วนอื่นๆของตัวกล้องเบาๆ ด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษสำหรับทำความสะอาดเลนส์
หากจำเป็นให้เช็ดเลนส์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเลนส์เพียงเล็กน้อย หยดน้ำยาทำความสะอาดลงบนกระดาษทำความสะอาดเลนส์ อย่าหยดลงบนตัวเลนส์โดยตรง
ผ้าที่ทำความสะอาดกล้องได้ดีที่สุดจะทำมาจากพวกไมโครไฟเบอร์ที่เก็บไว้ในถุงพลาสติกหากไม่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น ผ้าเช็ดหน้าบางๆ หรือเสื้อที่เป็นผ้าคัตตอนก็สามารถนำมาใช้ได้ ส่วนผ้าขนหนู กระดาษเช็ดปาก หรือกระดาษทิชชูอาจจะไม่เหมาะสำหรับทำความสะอาดเลนส์
2. การซ่อมแซมกล้องดิจิตอล
กล้องดิจิตอลสร้างขึ้นด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดและมีส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคจำนวนมากที่ยากต่อการซ่อมแซม ดังนั้น ในการซ่อมแซมกล้องดิจิตอลต้องอาศัยอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีมาตรฐาน
ปัญหาโดยทั่วไปของกล้องดิจิตอล
ปัญหาโดยทั่วไปที่พบบ่อยที่สุดก็คือเลนส์ซูมไม่ทำงาน กล้องไม่โฟกัสหรือไม่จับภาพ และข้อความต่างๆที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ LCD เกิดขัดข้อง สิ่งเหล่านี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับกล้องดิจิตอล
ปัญหาอื่นๆ ก็จะเกี่ยวกับ memory card หากเสียบ card ผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ และเรื่องของหน้าจอมีรอยขีดข่วน
สิ่งที่จะต้องตรวจสอบก่อนนำกล้องไปทำการซ่อม
แบตเตอรี่หมด กล้องจะไม่ทำงานหากแบตเตอรี่หมด ให้ลองใส่แบตเตอรี่ใหม่เข้าไปบางทีกล้องอาจจะไม่ได้เสียอย่างที่คิดก็ได้
การควบคุมตัวกล้องเป็นไปได้ที่อาจจะกดปุ่มผิดเข้าโดยบังเอิญ ให้ลองตรวจสอบการตั้งค่าดู
memory card เต็ม หาก memory card เต็ม กล้องจะไม่สามารถเปิดได้ ให้ลองเช็คดู
ให้ลองรีเซ็ทกล้องให้ลองรีเซ็ทกล้องใหม่ผ่านทางเมนูหรือการเอาแบตเตอรี่ออกประมาณ 24 ชั่วโมง
OK มันคงเสียจริงๆ
หากทดลองทำตามข้อแนะนำข้างต้นแล้วยังใช้ไม่ได้อยู่อีก ให้โทรหาศูนย์บริการซ่อมได้เลย ควรถามถึงระยะเวลาในการซ่อมแซมและถามถึงการรับประกันสินค้าด้วย หากจะซ่อมอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ ให้หาร้านที่มีในท้องที่ดูเพื่อค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า
ให้ตรวจสอบบริการต่างๆของผู้ผลิต
การทำงานที่ผิดพลาดของตัวกล้องในบางครั้งก็เป็นความผิดพลาดของตัวผู้ผลิตเอง ให้ศึกษารายละเอียดของสินค้า ทางบริษัทก็จะทำการซ่อมแซมให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แม้ว่าจะเกินกำหนดระยะเวลาของการรับประกันสินค้ามาแล้วก็ตาม ดังนั้นก่อนที่จะส่งกล้องไปซ่อมให้เข้าไปดูเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเพื่อหาข้อมูลหากมีข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวกล้องของคุณ
3. กล้องดิจิตอลกับสภาพอากาศสภาพอากาศแบบร้อน หนาว หรือมีฝนตก อาจไม่เป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลของคุณ อย่างไรก็ตาม การป้องกันอุปกรณ์ของกล้องไม่ให้ได้รับความเสียหายไว้ก่อนก็ยังดีกว่า
การเก็บอุปกรณ์ไว้ในถุงใส่กล้องที่กันน้ำจะช่วยให้ป้องกันกล้องจากสภาพอากาศต่างๆได้ หากมีตัว filter ติดอยู่ เช่น skylight filter ก็ให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารถปกป้องเลนส์ได้
หากฝนเกิดตกลงมากะทันหันขณะที่คุณกำลังแบกกล้องอยู่ ก็ให้เอาแจ็คเก็ตหรือเสื้อคลุมเอาไว้ก่อน หรือหากกล้องมีขนาดเล็กกะทัดรัด ก็ให้เอาไส่กระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อไว้ ในกรณีที่เตรียมพร้อมรับมือกับฝนอยู่แล้ว ช่างภาพบางคนก็เอาถุงพลาสติกคลุมรอบๆตัวกล้องไว้
ในสภาพอากาศที่หนาวมากๆ ให้เก็บกล้องไว้ในที่อุ่นๆหน่อย ส่วนในสภาพอากาศที่ร้อนก็อย่าให้กล้องถูกแสงแดดโดยตรง ควรหาผ้ามาคลุมกล้องไว้ อย่างเช่น ผ้าขนหนู, หรือผ้าที่มีสีสว่างหน่อย ทำให้กล้องไม่ดูดซับความร้อนมากเกินไป อย่าทิ้งกล้องหรืออุปกรณ์เกี่ยวกับตัวกล้องไว้ในรถที่เย็นหรือร้อนมากๆ
4. สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ในการดูแลรักษากล้องดิจิตอล
สิ่งที่ต้องทำ
ทำความสะอาดกล้องอย่างสม่ำเสมอ
จับทุกๆส่วนของตัวกล้องด้วยความทะนุถนอม
ปิดกล้องก่อนที่จะเอาแบตเตอรี่ออกหรือถอดสายเคเบิลออก หรือ ถอด memory card
รักษากล้องให้อยู่ในสภาพแห้งและให้ห่างจากที่ที่มีน้ำอยู่เสมอ
เก็บกล้องให้ถูกวิธี หากจะไม่ใช้งานเป็นระยะเวลานาน
สิ่งที่ไม่ควรทำ
อย่าให้กล้องได้รับแรงสั่นสะเทือน, ใกล้กับแม่เหล็ก, กลุ่มควัน, น้ำ, ไอน้ำ, ทราย, หรือสารเคมี
เก็บหรือใช้งานในที่ที่เปียกชื้น ที่ที่มีฝุ่นเยอะๆหรือที่ที่สกปรก
เก็บกล้องในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป
ให้สัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานาน หรือเอาไว้ในรถเมื่ออากาศร้อนมากๆ
ขีดข่วนกล้องด้วยวัตถุมีคม
ทิ้งไว้ในน้ำ
วิธีการเก็บกล้องดิจิตอล
การดูแลรักษาเป็นสิ่งจำเป็น หากคุณต้องการให้กล้องมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน จึงควรเก็บกล้องไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ให้ห่างจากความชื้นและความสกปรก
ก่อนที่จะเก็บกล้องดิจิตอล ต้องแน่ใจว่าได้ปิดเครื่องแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องเกิดความเสียหายได้ ให้ถอดแบตเตอรี่ออกและเก็บไว้ในที่ที่แห้ง แนะนำว่าให้ใส่ถุงพลาสติกที่มีความแห้งมากๆ เช่น ซิลิกา เจล ซึ่งจะดูดซับความชื้นไว้ได้ดี

รูป อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์

อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์

วันนี้ (28 ธ.ค.2554) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกลุ่มสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ที่ได้มีการนำลิงก์วิดีโอจากเว็บไซต์ ยูทูป ซึ่งตั้งชื่อว่า อนาคต....(http://youtu.be/9HIYbZqzHAg) มีความยาว 1.47 นาที ซึ่งมีผู้นำมาโพสต์ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยในภาพเป็นภาพวิดีโอของเด็กหญิงสาวที่อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมต้น ที่ยืนอยู่บนเก้าอี้สวมชุดนักเรียนอยู่กลางห้องเรียน และมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนชายหญิงยืนมองการเต้นอยู่รอบห้อง โดยเด็กสาวคนดังกล่าวได้เต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา ก่อนจะเริ่มถอดกระโปรงออกมาแล้วโยนเหวี่ยงออกจากตัว และเริ่มร่ายท่าเต้นด้วยลีลายั่วยวน เหลือกางเกงขาสั้นเอาไว้
อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์

จากนั้นเด็กสาวได้เต้นด้วยท่าทางยั่วยวน คล้ายกับท่าเต้นของสาวไคโยตี้ เพียงไม่นานก็ได้ทำท่าทางยั่วยวนในการเต้นจบด้วยการถอดเสื้อนักเรียนออกจนเหลือเพียงยกทรงสีดำ และยืนเต้นโยกย้ายไปมาท่ามกลางเพื่อนชายตัดผมสั้นเกรียน และเพื่อนหญิงที่พร้อมใจกันยกกล้องถ่ายบันทึกภาพจากโทรศัพท์มือถือ
อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์

ทั้งนี้ จากกระแสดังกล่าวในกลุ่มสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ได้เริ่มมีคนนำมาโพสต์ และมีการถกเถียงถึงความไม่เหมาะสมและความเสื่อมในสังคมเพิ่มมากขึ้นที่เด็กสาวอายุไม่น่าจะเกิน 15 ปีจะกล้าแสดงออกในทางที่ผิดต่อหน้าสังคม และให้ช่วยสอบถามถึงที่มีว่ามาจากโรงเรียนแห่งใด
อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์

บางคนได้โพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า ภาพดังกล่าวจะน่าถูกอัปโหลดภายในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคริสต์มาส และมีการจัดงานกิจกรรมในโรงเรียน แต่ความสนุกอาจเลยเถิดจนเป็นการแสดงไปในทางยั่วยวน โดยมีผู้เข้าชมแล้ว 7 พันกว่าคน ซึ่งหลายคนบอกว่าโชคยังดีที่เด็กสาวไม่กล้าที่จะถอดยกทรงออก ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นเรื่องใหญ่โตเหมือนกรณีสาวๆ ที่ไปเต้นถอดเสื้อเปิดเผยหน้าอกในเทศกาลสงกรานต์ครั้งที่ผ่านมา และเป็นข่าวโด่งดั่งไปทั่ว
อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์อึ้งสาว ม.ต้น เต้นถอดผ้าโชว์กลางห้อง ว่อนโลกออนไลน์